บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2020

นัดสยองในญี่ปุ่น

รูปภาพ
 เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งเพื่อนสนิทของผมที่เป็นคนญี่ปุ่น มาเล่าให้ผมฟังอีกที เพื่อนผมชื่อเอริ (エリ) นะครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เอริเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งจะต้องทำการขนของออกจากหอ เนื่องจากจะย้ายออกแล้ว.. คืนนั้น ระหว่างที่เอริกำลังจัดเก็บของทั้งหมดทั้งมวลลงกล่อง ก็ไปเจอกับมือถือเครื่องเก่าที่ตกอยู่ใต้เตียง เอริก็เอามือถือเครื่องเก่านั้นมาชาร์จแบต แล้วก็เปิดดูรูป ดูข้อความเก่าๆ ที่เคยคุยกับแฟนเก่า.. สักพักนึง มือถือเครื่องปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ ก็มีสายโทรเข้ามา แต่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น เอริก็รับสาย ปรากฎว่าเสียงปลายสายคือแฟนเก่าของเอริ ที่เอริกำลังเปิดข้อความอ่านอยู่ ซึ่งก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งนานหลายปีแล้ว แต่ทำไมเค้าถึงรู้เบอร์เครื่องใหม่ได้? แต่อีกใจก็คิดว่า เค้าคงไปหาเบอร์มาจากเพื่อนๆ ของเอริได้ไม่ยาก.. การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างก็ยังคิดถึงกัน และก่อนจะวางสาย ทั้งคู่ได้นัดไปเจอกันที่สวนสาธารณะในเมือง ที่เมื่อก่อนตอนเป็นแฟนกันเคยไปนั่งเล่นด้วยกันอยู่ประจำ แต่ทางแฟนเก่าของเอริมีข้อแม้ว่า ขอให้เอริใส่หมวกสีแดงใบเก

ชวนไปอยู่ด้วย

รูปภาพ
เรื่องเกิดขึ้นสมัยที่เราเรียนอยู่ ม.6 หรือประมาณ 3-4 ปีที่แล้วค่ะ เช้าวันหนึ่ง มีโทรศัพท์เข้ามา เราเพิ่งตื่นกำลังงัวเงีย ก็รับสายไป เป็นเพื่อนร่วมชั้นนี่แหละค่ะที่โทรมา เราก็ถาม ‘ว่าไง มีอะไรโทรมาแต่เช้าเลย..?’ เพื่อนก็บอกว่า ‘มึง เพื่อนในห้องเราคนนึงตายแล้วนะ รถคว่ำแล้วออกมาจากรถไม่ทัน ไฟคลอกตายคาที่เลย’ พอวางสายไป ด้วยความตกใจนึกว่าเพื่อนแกล้ง เลยลองโทรเช็คเพื่อนหลายๆ คนที่อยู่ในห้องเดียวกัน ทุกคนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง.. พอตอนเย็น เราก็นัดรวมตัวกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะไปงานศพค่ะ ที่งานก็ผ่านไปด้วยดี ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอจบงานศพไปประมาณ 2-3 วันก็เริ่มมีข่าว ว่าเพื่อนๆ ในห้องทยอยโดนเพื่อนคนที่ตายหลอก เช่นได้ยินเสียงเรียกบ้าง มาให้เห็นบ้าง.. เราก็เลยลองโทรไปถามเพื่อนคนนึง พอดีว่าเพื่อนคนนี้พี่ชายเขามีสัมผัสที่ 6 น่ะค่ะ เหมือนประมาณว่าสื่อสารกับวิญญาณได้ เขาบอกว่าพี่ลองนั่งสมาธิ แล้วติดต่อกับเพื่อนคนที่เสียไป เขาบอกว่า ‘วิญญาณดวงนี้กำลังโศกเศร้า และเหงามาก ตอนที่ยังมีชีวิต ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา เขาอยากได้ใครก็ได้ไปอยู่เป็นเพื่อนเขา..’ เราได้ฟังก็แบบอึ้งๆ ไปค่ะ ช่วงนั้นก็ยังคง

ถ้าเธอต้องเลือก

รูปภาพ
เรื่องราวนี้บอกเล่าจากรุ่นน้องของผมที่ชื่อว่า แจ็ค แต่เป็นเรื่องที่แฟนสาวของมันที่ชื่อว่า เอิง เล่าให้ฟังอีกที ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนั้นเอิงอายุได้ 17 ปี หลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เธอตัดสินใจเข้ามาเรียนในตัวจังหวัด ซึ่งเอิงเลือกที่จะเรียนวิทยาลัยครู วิชาเอกนาฏศิลป์ด้วย ระยะทางจากบ้านไปวิทยาลัยราวๆ 15 กิโลเมตร ช่วงแรกก็ขึ้นรถประจำทางไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเธอสงสารจึงไปออกรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมสีขาวให้ เพื่อที่จะขี่ไปกลับ แล้วเอิงเป็นคนที่ไม่เคยกลับบ้านดึกเลย เต็มที่คือทุ่มครึ่งก็ต้องถึงบ้านแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องน่ากลัวสำหรับเธอขึ้น หลังจากเอิงเรียนเสร็จแล้วประมาณบ่าย 3 โมง เพื่อนๆ ได้ชวนเธอไปกินสุกี้หม้อรวมที่บ้าน ตอนแรกก็คิดจะปฏิเสธ แต่ทนเพื่อนๆ รบเร้าไม่ไหว เธอบอกว่าได้ แต่อย่าดึกนะ เดี๋ยวกลับดึกพ่อแม่จะเป็นห่วง จนเวลาล่วงเลยไป.. ดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว เพื่อนก็ชวนให้เอิงนอนค้างที่บ้านเลย แต่เอิงบอกว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ที่บ้านจะไปวัดแต่เช้า ยังไงก็คงต้องกลับบ้าน เอิงขี่รถออกจากบ้านเพื่อนมาตามทางเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็ปวดท้องเลยมองหา

หายไปในพริบตา

รูปภาพ
คืนนั้น เวลาประมาณ 4 ทุ่ม เรากำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน บนเส้นทางหลวงริมโขงแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองบึงกาฬค่ะ พอถึงช่วงหนึ่งที่สองข้างทางมีแต่ป่า และเสาไฟถนนห่างๆ เราเห็นมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งแซงหน้าเราไป เป็นวัยรุ่นหญิง 2 คน ใส่กางเกงยีนส์ขายาว กับเสื้อยีนส์แขนยาวทั้งคู่ ลักษณะผมสั้นน่าจะเป็นเด็กมัธยมต้น สักพักมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็หักเลี้ยวกลับรถอย่างกระทันหัน โดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวเลย ไอ้เราก็ตกใจเลยขับชะลอดู พอรถคันนั้นสวนทางผ่านเราไป เราก็มองตามผ่านกระจกทันที แต่ไม่มีอะไรเลย.. เราตกใจเลยจอดรถแล้วหันไปมองตาม แต่ถนนกลับโล่ง ว่างเปล่า.. ไม่มีอะไรเลย!? ทั้งที่ถนนเป็นทางตรง และสองข้างทางก็เป็นป่า ไม่มีทางเลี้ยวใดๆ แน่ๆ สรุปคือเราทำงานหนักจนหลอนไปเอง หรือเราโดนเข้าแล้วจริงๆ ใช่ไหม? แต่เราก็ไม่อยากจะไปสืบหาว่า ถนนเส้นนั้นเคยเกิดเหตุอะไรมาบ้าง Story by  คุณ Princerah Finnaly

แฟนเก่า

รูปภาพ
เมื่อหลายปีก่อน เราคบกับแฟนคนหนึ่งมาได้ 7 เดือนค่ะ เรากับแฟนคนนี้รักกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอดจนแทบจะตัวติดกัน จนวันหนึ่ง เรากับแฟนก็ทะเลาะกัน (ขอไม่บอกนะว่าเรื่องอะไร) ทะเลาะกันจนถึงขั้นเลิกกันเลยค่ะ พอเลิกกันก็ต่างฝ่ายก็ต่างอยู่ ไม่นานเค้าก็ไปมีแฟนใหม่ เราก็อยู่ของเรา ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย (แต่ตอนเลิกก็จบกันด้วยดีนะ แค่ไม่ติดต่อกันอีก) เวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน คืนหนึ่งขณะที่เรากำลังจะหลับ แบบกึ่งหลับกึ่งตื่น เราฝันว่าแฟนเก่ามาหา มายืนเรียกอยู่หน้าบ้าน เราก็ลงไปเปิดประตูให้ เค้าบอกว่า  ‘ขออยู่ด้วยได้ไหม? เราไม่มีที่ไป..’  เราก็ตอบไปว่า  ‘ได้สิ เข้ามาเลย..’  เค้าก็บอกอีกว่า  ‘เราเข้าได้เหรอ มีคนไม่ให้เราเข้าไป..’  ในฝันเราก็ยังไม่คิดอะไรนะ ก็ตอบไปว่า  ‘เข้าได้ดิ นี่บ้านเรานะ เราให้เข้า’  จากนั้นก็พาเค้าเข้าบ้าน แล้วก็ปูที่นอนให้ข้างๆ เตียงเรา แล้วสักพักเราก็ตื่น ตื่นขึ้นมามองเห็นหมอนกับผ้าปูถูกปูไว้อยู่ข้างเตียงเราเหมือนในฝัน เราก็งงๆ แต่คิดว่าเราคงจะละเมอไปเอามาปูไว้ แล้วหลังจากคืนนั้นเราก็รู้สึกเหมือนว่าไม่ได้อยู่คนเดียวอีกเลย ซึ่งปกติเราอยู่บ้านคนเดียวนะ ส่วนแฟนเก่าเค้า

ผีฝากลูก

รูปภาพ
สมัยที่ฉันยังเป็นเด็ก อายุไม่น่าจะเกิน 6 ขวบได้ ตอนนั้นคุณแม่ของฉันท่านตั้งท้องน้องชายของฉันค่ะ ก่อนที่คุณแม่จะรู้ตัวว่าท้องนั้น ท่านเคยฝันว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาว ผมยาว หน้าตาซีดเซียว มาหาท่านในฝัน แล้วเอ่ยปากฝากฝังลูกของตัวเองกับคุณแม่ของฉันว่า เธอโดนรถชนตายพร้อมกับลูกของเธอใกล้ๆ แถวนี้ เธอรักลูกมาก สงสารลูกที่ต้องมาตายตั้งแต่ยังเล็ก เธอเลยอยากจะขอฝากลูกไว้กับคุณแม่ ให้ช่วยเลี้ยงลูกเธอให้ด้วย ในฝันคุณแม่รับเด็กคนนั้นไว้ในอ้อมแขน และรับปากว่าจะดูแลให้ ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มแล้วค่อยๆ หายไป.. จากนั้นคุณแม่ก็ตกใจตื่น แล้วไม่นานหลังจากนั้น คุณแม่ของฉันก็รู้ว่าตัวเองตั้งท้องค่ะ เวลาผ่านไป จนคืนหนึ่ง หลังจากที่คุณแม่ของฉันคลอดน้องชายได้แค่ไม่กี่วัน กลางดึกคืนนั้น ขณะที่ทุกคนในบ้านหลับไหล ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วมองไปที่มุ้งของคุณแม่ที่นอนอยู่กับน้อง (ส่วนฉันนอนอยู่กับยาย) ฉันเห็นเงาสีดำๆ รูปร่างคล้ายผู้หญิงผมยาว นั่งอยู่ในมุ้งใกล้ๆ กับน้องด้วย แต่ระหว่างที่ฉันกำลังพยายามเพ่งตามองให้ชัดว่าใครที่นั่งอยู่ จู่ๆ คุณแม่ก็ร้องตะโกนโวยวายเสียงดัง จนทุกคนในบ้านตกใจตื่นกันหมด ทุกค

แท็กซี่เที่ยวดึก

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของลุงกล้า ซึ่งมีอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่มือใหม่ ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ.. มีเรื่องที่เลื่องลือกันอย่างแพร่หลาย ในหมู่ของคนขับรถแท็กซี่ว่า บริเวณป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านงามวงศ์วาน ตอนกลางดึกหลังห้างปิด เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาวเรียกจากหน้าห้าง ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ (ถ.รัตนาธิเบศร์) พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัด ปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงคนนั้นก็หายไปเฉยๆ.. ว่ากันว่าผีผู้หญิงที่หน้าห้างแห่งนี้ คือหญิงสาวที่เคยใช้ที่จอดรถของห้าง เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างนี้ได้ทำลวดตาข่ายมาปิดไว้หมดทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุซ้ำรอยอีก แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ.. แต่ความที่ลุงกล้าเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึงไม่เชื่อ แล้วก็ยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วาน และใกล้เคียงเป็นประจำเพราะรายได้ดี เนื่องจากแถวนี้ตอนดึกๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา จนมีอยู่คืนนึงดึกมากแล้ว ลุงกล้าขับรถผ่านหน้าห้างดังกล่าว ก็มีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่ ทันทีที่เห็น ลุงกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เคยได้ยินทันที.. แ

สองสาวชุดดำ

รูปภาพ
สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นตำนานของเรื่องผีของเมืองไทยที่หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้ว เรื่องจริงของ คุณหนุ่ม ในคืนวันหนึ่ง ขณะที่คุณหนุ่มกำลังเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปเที่ยวกับเพื่อนแถวๆ  รัชดา ระหว่างที่ขับรถกลับ ตอนนั้นเวลาประมาณตี 2 กว่าๆ ก็พบหญิงสาว 2 คน สวมชุดดำทั้งชุดยืนโบกรถอยู่ ตัวคุณหนุ่มเอง มองกระจกหลัง ก็ไม่เห็นแท็กซี่ตามมา จึงเข้าใจว่า หญิงสาวทั้ง 2 คงโบกเรียกรถของตัว อีกทั้งเวลานั้นก็ดึกมากแล้ว แท็กซี่คงหายาก และสองสาวนั้นก็หน้าตาดีด้วย คุณหนุ่มจึงตัดสินใจจอดรับ.. คุณหนุ่มเปิดกระจก เพื่อถามสองสาวชุดดำว่าจะไปไหน สาวชุดดำคนหนึ่งบอกว่า รบกวนช่วยพาไปส่งที่วัดเสมียนนารีที คุณหนุ่มเห็นว่าเป็นทางผ่านจึงตอบตกลงไป.. เมื่อเธอทั้ง 2 ขึ้นมาบนรถ คนหนึ่งนั่งหน้า ส่วนอีกคนนั่งหลัง ระหว่างทางคุณหนุ่มรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเธอทั้งคู่ ถึงไม่คุยกันเลย อีกทั้งหน้าตาก็ดูเศร้า แม้แต่เวลาที่ชวนคุย ก็เป็นลักษณะถามคำตอบคำ คุณหนุ่มก็คิดในใจว่า สงสัยจะมีญาติเสียอยู่ที่วัด ทำให้คุณหนุ่ม ที่ตอนแรกตั้งใจจะขอเบอร์โทรไว้ ต้องหยุดความตั้งใจนั้น เมื่อขับผ่านถนนสายวิภาวดีมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าทางเข้

งานศพ..เบญจเพส

รูปภาพ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวเราค่ะ เกิดขึ้นเมื่อตอนน้องสาวเราอายุ 25 ปี เข้าเบญจเพส ช่วงนั้นมีคุณยายที่รู้จักทักน้องเราว่าอย่าไปงานศพ ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยง ทำบุญให้เยอะ ซึ่งน้องก็ทำตามมาตลอด จนผ่านไป 3-4 เดือน มีวันหนึ่งพ่อของ น้องเอ ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานด้วยกันเสีย ด้วยความที่สนิทกัน ยังไงน้องเราก็ต้องไปงานศพค่ะ ก็รอเลิกงานไปพร้อมกับเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆ พอไปถึงงานศพ เจอน้องเอก็เข้าไปปลอบกันตามปกติ ตอนนั้นพระใกล้สวดแล้ว แต่ในงานมีคนไม่กี่คน เข้าใจว่าน่าจะมีแค่ญาติๆ เอพาน้องสาวเรากับเพื่อนๆ ที่ทำงานไปจุดธูปไหว้พ่อ น้องเล่าว่าตอนไหว้อยู่ได้กลิ่นเหมือนอับๆ ชื้นๆ แตะจมูกอย่างชัดเจน แต่เหมือนทุกคนจะไม่ได้กลิ่น ก็เลยไม่ได้พูดอะไร.. แต่มาเห็นก็ตอนพระเริ่มสวดนี่ล่ะค่ะ น้องเรามองไปที่ที่เอนั่งแถวหน้าสุด ก็ต้องตกใจ เพราะเห็นพ่อของเอยืนก้มหน้าอยู่ตรงข้างหน้าเอ ตัวของพ่อเอเปียกน้ำชุ่มแบบมีน้ำหยดเลย พ่อเอก้มหน้ามาเหมือนพยายามจะพูดบางอย่างกับเอ แต่ไม่มีเสียงออกมา และเอก็เหมือนจะไม่เห็น ตอนนั้นเอง เหมือนพ่อเอจะรู้ว่าน้องเรามองเห็นเขา พ่อเอเงยหน้ามามองน้องเรา น้องบอกว่าหน้าพ่อเอแบบซีดมากๆ พ่

ฝันบอกเหตุ

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องที่ทำงานเราเอง ชื่อ น้องตาล ค่ะ เช้าวันหนึ่ง น้องตาลถามขึ้นมาว่า ‘พี่เคยฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ กันไหมคะ?’ เราก็ถามกลับว่า ‘ซ้ำขนาดไหนล่ะ?’ น้องบอกว่า ‘ซ้ำแบบ.. เห็นบ้านหลังเดิม อาทิตย์ละครั้งน่ะค่ะพี่..’ เราก็บอกน้องว่า พี่ไม่เคยนะ ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิ.. น้องตาลจึงเริ่มเล่าว่า หนูฝันถึงบ้านทรงไทยมาเป็นปีแล้ว ฝันอาทิตย์ละครั้ง แต่ช่วงแรกๆ บ้านหลังนั้นสวยสะอาดมาก แต่หลังๆ มานี้ มันโทรมค่ะพี่ มันเก่าลงเรื่อยๆ เก่าจนหนูไม่อยากจะฝันเห็นอีก.. เราถามว่า แล้วมันน่ากลัวไหม? น้องตาลก็บอกว่า มันไม่น่ากลัวค่ะ แต่ทุกครั้งที่หนูเห็น หนูรู้สึกว่าหนูเศร้า ยิ่งเห็นว่าเก่าลงเท่าไรหนูก็ยิ่งเศร้า เราถามอีกว่า แล้วบ้านในฝันหลังนี้ รอบๆ มันเป็นยังไง? น้องตาลบอกว่า บ้านมันตั้งอยู่ในบริเวณบ้านหนูที่อยู่ภาคใต้ค่ะพี่ เวลาผ่านไป น้องตาลก็จะมาบอกทุกครั้งเวลาที่ฝันถึงบ้านหลังเก่าหลังนี้ ‘พี่ หนูฝันอีกแล้ว มันเก่าลงอีกแล้ว..’ น้องตาลจะดูเศร้าทุกครั้งที่มาเล่า เราก็ได้แต่ปลอบไปว่า ‘อย่าคิดมากเลย ตาลอาจแค่คิดถึงบ้าน..’ จนช่วงเย็นวันหนึ่ง น้องตาลส่งไลน์มาถามว่า ‘พี่คะ ฝันว่าฟันหัก คือญา

นางรำในงานโรงเรียน

รูปภาพ
ตอนนี้แบมเรียนอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดยโสธร เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นสมัยที่ยังเรียนอยู่ ม.3 นะคะ.. แบมอยู่ชมรมนาฏศิลป์ ช่วงนั้นกำลังจะมีงานคือสู่เหย้า ก็จะมีการแสดง การรำ แบมเองก็เป็นหนึ่งในนางรำค่ะ ก่อนจะถึงวันงาน 2 วัน ต้องซ้อมจนดึกทุกวัน เลยต้องนอนที่โรงเรียนค่ะ นอนกัน 8 คน มีรุ่นพี่ ม.ปลาย 5 คน.. คืนแรกพอซ้อมรำเสร็จก็เข้านอนกันปกติไม่มีอะไร แต่พอคืนที่ 2 ซ้อมรำเสร็จประมาณเที่ยงคืนพอดี ทุกคนทำธุระส่วนตัวกัน กว่าจะได้เข้านอนก็ประมาณตี 1 ขณะที่ทุกคนนอนกันหมดแล้ว รวมถึงแบมเองด้วย อยู่ๆ แบมก็ได้ยินเสียง เป็นเสียงเหมือนคนพยายามจะเปิดประตู ทีแรกก็คิดว่าคงจะเป็นครู เลยไม่ได้ลุกมาดูค่ะ  พอหลับไปได้ไม่นานมาก ประมาณตี 3 แบมก็ตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงเพื่อนที่นอนข้างๆ ร้องไห้ ร้องแบบว่า ‘ฮือๆๆ’ เลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หันไปถามว่าเป็นอะไร เพราะคิดว่าคงทะเลาะกับแฟน เลยไม่อยากยุ่งดีกว่า ตอนนั้นแบมนอนหันหลังให้เพื่อนอยู่ แล้วก็รู้สึกว่า เพื่อนขยับเข้ามาเบียด และร้องไห้ ‘ฮือๆๆ’ อยู่ข้างๆ แต่แบมก็ไม่ได้อะไรค่ะ ก็หลับไปทั้งอย่างนั้น ตื่นเช้ามา เป็นวันที่ต้องแสดง แต่การแสดงจะม

ผีหวงบ้าน

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณครูเทพครับ คุณครูเทพเล่าว่า สมัยผมเรียน ปวช. ที่สถาบันศิลปะแห่งหนึ่งย่านบางเขน เวลาอาจารย์สั่งงานกลุ่ม พวกผมจะต้องย้ายออกจากบ้านมาหาหอพักกัน เพราะงานที่ได้รับมอบหมายส่วนใหญ่ จะต้องร่วมกันใช้สมาธิ และจินตนาการในการสร้างงานมาก พวกผมก็ได้ไปหาหอพักกันใกล้ๆ สถาบัน ก็จะมีแต่ราคาค่อนข้างสูง หรือไม่ก็เจอหอพัก ที่เจ้าของหอไม่ต้องการให้กลุ่มวัยรุ่นอย่างพวกผมอยู่ด้วยกันได้หลายๆ คน ก็เข้าใจเจ้าของหอนะครับ เพราะเวลาเด็กศิลป์รวมตัวกัน มันก็ใช่ย่อยทีเดียว.. หาหอพักกันนานจนเหนื่อยใจ ไม่ได้สักที จะเลือกบ้านเพื่อนแต่ละคนก็ไม่สะดวก แต่แล้วก็เหมือนพระมาโปรด วันหนึ่ง ระหว่างที่ผมกินข้าวกับครอบครัว ได้ยินพ่อกับแม่คุยกันเรื่องบ้านของเพื่อนพ่อ ที่จะหาคนเช่า อยู่แถวรามอินทรา กม. 4 ผมก็เลยถามพ่อไปว่า ‘เพื่อนพ่อให้เช่าต่อเดือนราคาเท่าไหร่ครับ?’ พ่อบอกว่า 1500 บาท เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวา มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ผมนี่รีบบอกเลยว่าผมจะเช่ากับเพื่อนๆ เพราะต้องมารวมตัวกันทำงานกลุ่ม จะได้ทำงานกันอย่างอิสระ วันต่อมา ผมกับเพื่อนๆ 5 คนมาดูบ้านที่จะเช่า เป็นบ้าน 2 ชั้น อยู

รถตู้เที่ยวดึก

รูปภาพ
ย้อนกลับไปสมัยที่ผมขับรถตู้วินเถื่อนใหม่ๆ สมัยนั้นกฏหมายยังไม่เข้มงวดเหมือนตอนนี้ ครั้งนั้นเดินทางเที่ยวดึกไปแม่สอดครับ มีผู้โดยสารเป็นนักศึกษาทั้งหมด 5 คน นั่งข้างผม 1 คน นั่งแถวหลังคนขับ 2 คน และแถวหลังสุด 2 คนเป็นแฟนกัน ส่วนแถวกลางว่างไว้ พอเดินทางไปถึงแถวหน้านิคมพรหมบุรี น้องนักศึกษาที่นั่งข้างผมก็ทักว่า ‘พี่ๆ มีคนโบกรถ จอดเลยพี่!’ ผมก็มองๆ นะ มันเป็นศาลาริมทางมืดๆ มีเงาตะคุ่มๆ ก็เลยจอด แต่พอมองเข้า มองไปรอบๆ กลับว่างเปล่าไม่มีใครเลย ผมกับนักศึกษาข้างๆ เลยมองหน้ากันแบบงงๆ แล้วในขณะที่งงกันอยู่นั้น น้องเบาะหลังก็เปิดประตูรถแล้วบอกว่า ‘เอ้าขึ้นมาเลย รออะไร?’ ผมกับน้องที่นั่งข้างๆ ก็มองหน้ากันอีก ผมเปิดไฟในห้องโดยสารแล้วหันไปถามน้องที่เปิดประตูว่า ‘น้องเรียกใครอะ พี่ไม่เห็นมีใครเลย..’ น้องเลยตอบว่า ‘เอ้า ก็เห็นเพื่อนบอกมีคนเรียก พี่จอดรถรับคนไม่ใช่เหรอคะ?’ ผมไม่ได้พูดอะไร แล้วออกรถต่อ บรรยากาศในรถเริ่มวังเวง ไม่มีใครคุยกัน แอร์ก็เย็นขึ้น แต่มันเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก ขับไปจนจะพ้นสิงห์บุรี น้องเบาะข้างหลังผมก็มากระซิบข้างๆ หูผม ‘พี่ๆ’ ผมนี่ตกใจร้อง ‘เฮ้ย!’ เลย พอตั้งสติได้ก็ถ

งานประมูลรถ

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ศักดิ์เจ้าของเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 ครับ พี่ศักดิ์แกเป็นคนชอบตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อไปหารถเข้ามาไว้ในเต็นท์รถของตัวเอง บางครั้งก็จะไปงานประมูลรถ วันหนึ่งพี่ศักดิ์ไปงานประมูลรถ และไปเจอรถเก๋ง 4 ประตูคันหนึ่ง เห็นแวบแรกคือรถคันนี้ใหม่มาก สีก็ใหม่ ล้อก็ใหม่ ข้างในใหม่ ทุกอย่างใหม่หมดเลย ทั้งที่อายุการใช้งานก็ 10 กว่าปีแล้ว ก็เลยประมูลแล้วได้รถคันนี้มาในราคาไม่แพง แกดีใจมาก เพราะทุกครั้งที่ไปประมูลรถมาก็จะได้รถที่ไม่ค่อย 100% ต้องเอากลับมาซ่อมมาแต่ง จากนั้นแกก็ขับรถคันนี้กลับมาไว้ที่เต็นท์รถของตัวเอง ที่เต็นท์รถ พี่ศักดิ์จะมีลูกน้องคนหนึ่งชื่อว่า ปัญญา ซึ่งจะคอยเฝ้ารถ ดูแลความเรียบร้อยให้ทั้งกลางวันกลางคืน สิ่งที่แปลกสำหรับรถคันนี้ก็คือ เวลามีลูกค้ามาดู จะบอกว่ารถสวยจังเลย ใหม่มาก แต่พอไขกุญแจเปิดให้ดูข้างใน ทุกคนจะมีท่าทีบ่ายเบี่ยงหมด บอก เอาไว้ก่อนดีกว่าบ้าง.. ขอไปดูคันอื่นดีกว่าบ้าง.. ในตอนกลางคืน ปัญญาเด็กเฝ้าเต็นท์รถที่นอนอยู่ในห้องด้านบน ได้ยินเสียงปลดล็อครถ ‘ตื๊ดๆ’ ก็เลยลุกจากที่นอนเปิดหน้าต่างมองออกมา เห็นว่ารถคันนี้ไฟผ่าหมากมันเป

เสียงเคาะจากโลง

รูปภาพ
 หลังจากที่กลับมาจำวัดแล้ว 1 สัปดาห์ ในวันอาทิตย์ตอนเย็นหลังจากทำวัตรเสร็จ พระที่เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสท่านบอกว่า ‘พรุ่งนี้ไม่ต้องไปบิณฑบาตรนะ มีกิจนิมนต์ไปบ้านหลังหนึ่ง เป็นงานศพ เขาสวดมาได้ 6 วันแล้ว วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ 7’ วันรุ่งขึ้น ผมตื่นมาตี 4 หลังจากทำวัตรเสร็จเรียบร้อย ก็ขึ้นรถไปยังบ้านที่จัดงานศพ มีพระที่วัดไปทั้งหมด 5 รูป รวมผมกับเพื่อนด้วย.. พอไปถึงบ้าน ลักษณะเป็นบ้านไม้ตามต่างจังหวัดที่ยกใต้ถุนสูง ก็ขึ้นไปบนตัวบ้านเห็นโลงศพตั้งอยู่ และมีพวงหรีดตั้งไว้ พระก็ทยอยไปนั่งอยู่หน้าโลงเพื่อที่จะเตรียมทำการสวด แต่ระหว่างนั้น หลวงตาที่มาด้วยกันท่านอยากจะเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ข้างล่าง เลยต้องรอท่านก่อน ช่วงที่รอ ผมกับเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับโลงศพก็ได้ยินเสียงดัง ‘ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..’ เพื่อนผมมันหันมาหาทันที ถามว่า ‘ได้ยินไหม?’ ผมก็พยักหน้าตอบ ‘ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..’ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มั่นใจเลยว่าดังมาจากในโลงแน่ๆ ละ ผมกับเพื่อนเลยขอตัวลงไปรอข้างล่าง ไปรอหลวงตาขึ้นมาพร้อมกัน.. พอลงไปข้างล่าง ก็ไปเจอคุณตาคนหนึ่งผอมๆ นั่งอยู่บนแคร่ข้างๆ ห้องน้ำ เพื่อนผมเลยถามคุณตาแกว่า

เปรตป้าบัว

รูปภาพ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้รับฟังมาจากหลวงพี่ท่านหนึ่ง ตอนสมัยที่ผมบวชเณรเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แน่นอนว่ามีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับภูตผีจากผู้เฒ่าผู้แก่ โดยเฉพาะ ผีเปรต ผีปอบ ผีโพง ผีกระสือ ผีกองกอย.. คือสมัยก่อนหมู่บ้านที่ผมอยู่ ยังไม่ได้พัฒนาเหมือนปัจจุบัน บ้านคนก็ยังไม่เยอะสักเท่าไหร่ วัดประจำหมู่บ้านจะอยู่ห่างออกไป แต่จะมีถนนตัดผ่านเข้าไปภายในตัววัด แล้วทะลุออกไปด้านหลังของวัด จะมีสะพานไม้เก่าๆ ซึ่งเชื่อมต่อไปสู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง มีประมาณ 10 หลังคาเรือน ห่างจากตัววัดออกไป 200 กว่าเมตร ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นจะเต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม ขนาดผ่านไปตอนกลางวันยังวังเวง และเงียบสงัดมาก แต่คนแถบนั้นอยู่กันนานจนชินไปแล้ว ส่วนบริเวณตัววัดจะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านหน้าจะมีต้นตาลใหญ่ 4 ต้น ส่วนด้านหลังจะปกคลุมไปด้วยป่าไม้ไผ่ และเป็นป่าช้าที่เอาไว้เผาศพ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับถนนที่ไปยังหมู่บ้านนั้น หลวงพี่ยอดเล่าว่า ย้อนไปตอนที่ท่านยังเป็นสามเณร ท่านจะมีนิสัยเกเร และดื้อตามประสาเด็ก มีป้าคนหนึ่งชื่อว่าป้าบัว (นามสมมติ) แกมักจะมาทำบุญที่วัด ไม่ก็ตักบาตรที่หน้าบ้านแกเป็นประจำ แต่ป้าบัวแกเป็นคนขี้อิ

ผีเจ้าของร้านเกม

รูปภาพ
 เรื่องนี้เกิดขึ้นราว 4-5 ปีที่แล้วครับ โดยเหตุการณ์จะแบ่งเป็น 2 ช่วงครับ ช่วงแรก : ร้านเกมที่ว่านี้เปิดขึ้นในช่วงที่ร้านเกมกำลังบูม ร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองจังหวัดเลย เจ้าของร้านชื่อ อู๊ด เป็นชายวัย 30 กว่าๆ ลักษณะเป็นคนยิ้มง่าย ตัวเล็กผอมบาง ดูไม่มีพิษภัย อู๊ดมีเมียสาววัย 20 ต้น หน้าตาสะสวย แต่ชื่ออะไรอันนี้ผมก็ไม่รู้ เพราะเคยคุยกับอู๊ดบ้างตอนเป็นวัยรุ่น แต่โตมาก็ไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มก๊วนที่ไปเที่ยวเล่นเดียวกัน อย่างมากเห็นหน้าก็ยิ้มแย้มทักทายกันตามประสา.. ผมไม่รู้หรอกว่าชีวิตครอบครัวของอู๊ดเป็นยังไง เพราะไม่ใช่เพื่อนสนิท แค่คนเคยรู้จักกัน รู้แต่อู๊ดเปิดร้านเกม จนกระทั่งได้ยินข่าวว่าอู๊ดผูกคอตายในร้านตัวเอง!! มีคนเล่าให้ผมฟังว่า คืนนั้นราวเที่ยงคืนร้านเกมของอู๊ดก็เปิดดึกตามปกติเหมือนๆ ร้านเกม (ที่จ่ายส่วย) ทั่วไป อู๊ดบอกเด็กในร้านว่าจะขึ้นไปทำธุระบนบ้าน ฝากหน้าร้านด้วย เด็กก็พยักหน้ารับแล้วก็เล่นเกมไปเรื่อย จนเวลาจะตี 2 เด็กอยากกลับบ้าน เลยขึ้นไปตามอู๊ด แต่สิ่งที่เห็นคือ อู๊ดผูกคอตายแน่นิ่งไปแล้ว.. เด็กวิ่งหนีกระเจิงกันทั้งร้านเลย.. จากคำบอกเล่าของเด็กใ

ภาพจำ

รูปภาพ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้ฟังมาจากพี่คนหนึ่งที่ผมเคยรู้จัก ชื่อว่า พี่วิน ครับ แกทำงานเป็นช่างถ่ายรูป และได้เล่าประสบการณ์หลอนครั้งหนึ่งให้ผมฟังว่า เมื่อหลายปีก่อนพี่วินได้ไปเที่ยวที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ จังหวัดนี้ค่อนข้างที่จะสงบ แหล่งท่องเที่ยวมักจะเป็นดอย เป็นภูเขาเสียส่วนใหญ่ แกมักจะไปสถานที่หนึ่งเสมอ เพราะอากาศและทิวทัศน์ดีมาก หลายครั้งแกสังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งดูวัยรุ่น และหน้าตาน่ารักนั่งอยู่บนอาคารสูง มองเหม่อไปยังภูเขาข้างหน้า พี่วินเลยเดินขึ้นไปชั้นบนนั้นเพราะคิดว่าวิวที่น้องเขามองคงสวยมาก แกถือกล้องขึ้นบันไดไป ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 โมงเย็น แดดร่มลมตกแสงสวยมาก พอขึ้นไปถึงปรากฏว่าน้องผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว พี่วินสงสัยนิดนึงแต่ไม่ได้อะไรมากมาย ถ่ายรูปไปเรื่อยจนพอใจ นั่งพักแล้วเดินลงมาราวๆ 6 โมงเย็น พอลงมาข้างล่างก่อนจะเดินไปขึ้นรถกลับ แกหันไปมองชั้นบนอีกครั้ง ปรากฏว่าเจอผู้หญิงคนเดิมนั่งเอามือเท้าคาง สายตามองไปข้างหน้า แกบอกว่าแปลกใจนะเพราะทางขึ้นมันมีทางเดียว ถ้าน้องขึ้นไปก็ต้องเดินสวนกันสิ.. วันถัดไปแกไปเที่ยวในเมืองถ่ายรูปต่างๆ เยอะมาก เลยมีความคิดว่าจะเอารูป

กอด

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องประจำคณะของเราค่ะ สมัยตอนอยู่ปี 1 เรื่องนี้ดังมาก (ขออนุญาตไม่บอกชื่อมหาวิทยาลัยนะคะ) ทุกครั้งที่มีการรับน้องในคณะ พวกรุ่นพี่จะชอบเล่าเรื่องนี้ให้ฟังตลอด เรื่องมีอยู่ว่า.. เคยมีคู่รักนักศึกษาอยู่คู่หนึ่ง เป็นเด็กปี 2 อยู่หอเดียวกัน ทั้งคู่กินอยู่กลมเกลียวกันดี ฝ่ายหญิงอยู่ในคณะเรานี่เองค่ะ ส่วนฝ่ายชายอยู่อีกคณะที่ตึกติดกัน วันหนึ่งฝ่ายหญิงต้องไปทำโปรเจคบ้านเพื่อนถึงตี 2 กว่าๆ พอตอนกลับ ระหว่างที่เธอขี่มอเตอร์ไซค์ก็ได้โทรคุยกับฝ่ายชาย โดยมีการตกลงแบบคู่รักน่ารักๆ ว่า ‘เหนื่อยจัง..ถ้าถึงห้องแล้วขอกอดหน่อยนะ’ เธอขี่รถต่อไปได้อีกสักพัก ก็ต้องผ่านวงเหล้าที่นั่งกินกันข้างถนน เป็นพวกนักเลงขี้ยาที่กำลังเมาได้ที่ พอเห็นสาวสวยผ่านมาก็เลยเข้าไปหยอกล้อกันใหญ่ ฝ่ายหญิงเห็นท่าไม่ดีเลยจะเบี่ยงรถหนี แต่กลับไปชนลูกน้องคนหนึ่งในแก๊งเข้า คนในแก๊งเลยรุมกระทืบเธอ และเอามีดแทงท้อง กระซวกจนตายสนิท.. ประมาณตี 4 กว่าๆ ฝ่ายชายเห็นว่าแฟนยังไม่กลับ เลยโทรไปหา แต่ก็ไม่มีใครรับสาย.. สักพักก็มีเสียงคนเคาะประตู เสียงดังไปทั่วทั้งชั้น พอฝ่ายชายเดินไปเปิดเสียงก็เงียบไป และเป็นเสียงผู้หญิงพู