บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2020

เวลาที่เหลืออยู่

รูปภาพ
 ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เราเป็นคุณแม่ลูก 1 แล้วนะคะ ช่วงนั้นเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาะสมุยกับเพื่อน ได้พักอยู่ริมหาดเลย ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เราก็ยังออกไปเล่นทะเลกับเพื่อนๆ เดินเลาะไปตามโขดหินริมหาดเรื่อยๆ และก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน คือเราลื่นล้ม พลัดตกไปในทะเลซึ่งตรงนั้นน้ำลึกด้วย และเราว่ายน้ำไม่เป็นไง ก็คือจมน้ำไปเลย สิ่งที่จำได้สุดท้ายคือ มืดสนิทไม่เห็นอะไรเลย แต่สุดท้ายที่รู้ก็คือ มีเพื่อนคนนึงช่วยเราขึ้นมาได้แบบทุลักทุเลมากๆ เราหมดสติไปเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในห้องนอนแล้ว โดยเพื่อนเล่าว่า หน่วยกู้ภัยของเกาะมาช่วยปฐมพยาบาลไว้ได้ทัน ถ้าช้ากว่านี้อาจจะน้ำท่วมปอดหายใจไม่ออกได้.. แต่เรื่องมันเกิดหลังจากนี้ค่ะ.. คืนนั้นหลังจากเกิดเรื่อง เราก็นอนหลับอยู่กับเพื่อน ในขณะที่กึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น เราฝันว่ามีชายรูปร่างใหญ่ ผิวดำมากๆ ไม่ใส่เสื้อ แต่นุ่งเหมือนโจงกระเบนสีแดง มีผ้าคาดหัวสีแดง เดินมากัน 2 คน และในมือของทั้ง 2 คนนั้น มีอาวุธที่เราขอเรียกว่าไม้ง่าม ขนาดค่อนข้างยาวมากๆ ชาย 1 ในนั้นได้เข้ามาจับข้อมือเรา และฉุดกระชากจนเรารู้สึกเจ็บมาก ในฝันเขาไม่ได้ขยับปากพูดอะไร แต่กลั

แฟนมาขอโทษ

รูปภาพ
 เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วค่ะ จนเราทำใจได้แล้ว ถึงตัดสินใจมาเล่าให้ฟัง คือตอนนั้นเราคบกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อ ต้น (นามสมมติ) เราคบกันได้ราว 3 ปี จนใกล้จะแต่งงานกันอยู่แล้ว เย็นวันหนึ่ง ต้นบอกว่าวันนี้คงไม่ได้กลับบ้านนะ มีงานด่วนต้องแก้ที่ออฟฟิศ (ต้นทำงานฝ่ายไอทีซัพพอร์ท ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ) เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเข้าใจในงานของต้นซึ่งมักจะมีปัญหาต้องสแตนบายรอแก้ไขอยู่เสมอ คืนนั้นด้วยความง่วง เราก็เข้านอนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเรากระสับกระส่าย ใจมันหวิวๆ เสียดๆ ยังไงบอกไม่ถูก เวลาผ่านไปจนดึก อยู่ๆ เราก็รู้สึกได้ถึงเตียงที่ยวบลง.. ในความมืด เราพยายามผงกหัวขึ้นมามอง สิ่งที่เห็นคือ ต้นกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่ปลายเตียง ก้มหน้าลงพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดในลำคอ จับใจความได้ว่า ‘ต้นขอโทษ..’ และนั่นคือภาพสุดท้ายที่เราเห็นก่อนที่เราจะหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้.. ช่วงเช้าเราตื่นขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ดู ปรากฏว่ามีสายที่ไม่ได้รับเป็นเบอร์ของต้นอยู่หลายสาย (เราปิดเสียงไว้ตอนนอน) แต่พอเราโทรกลับไป ปรากฏว่าเป็นเสียงคนอื่นรับสาย เขาบอกว่า ‘เจ้าของเครื่องเสียชีวิตแล้ว จากอุบัติเหตุรถ

ผู้หญิงกับแมวดำ ตอนที่ 1

รูปภาพ
เราเป็นนักศึกษาน้องใหม่ปีหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ ช่วงนั้นทุกๆ วันหลังจากที่เรียนเสร็จ 4 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม นักศึกษาใหม่ทุกคนจะต้องซ้อมเชียร์ ห้ามหนี ห้ามขาด ห้ามเเอบไปอู้อยู่บนห้อง เพราะจะมีพี่ว๊ากขึ้นไปตรวจดูบนห้องตลอด ปกติเราก็เข้ากิจกรรมทุกวันนะคะ แต่มันมีอยู่วันหนึ่งคือขี้เกียจมากๆ เลยชวนเพื่อนคนหนึ่งโดดซ้อม เพื่อนคนนี้มันก็เห็นดีเห็นงามด้วยค่ะ แต่เรา 2 คนพักอยู่คนละตึกกัน เราอยู่ตึก C ส่วนเพื่อนเราอยู่ตึก B แต่ละตึกจะมีปีกซ้ายปีกขวามี 4 ชั้น ห้องจะหันเข้าหน้าหากัน และมีทางเดินตรงกลาง คือเราไม่ได้ชวนมันหนีไปไหน แค่จะแอบอยู่ในห้องเฉยๆ ห้องใครห้องมัน เราก็แยกย้ายกันขึ้นห้องไปในช่วงชุลมุน โดยแอบเข้าห้องน้ำนานๆ ห้องเราจะมีรูมเมทอยู่ด้วยอีก 2 คนรวมเราเป็น 3 แต่ก็ไม่สนิทกันเท่าไร เพราะอยู่คนละคณะกัน พวกนางก็คงไม่ทันสังเกตว่าเราแอบอยู่ พอถึงเวลาเรียกรวม พวกนางก็รีบวิ่งไปตามเสียงนกหวีดเรียกของพี่ว๊าก ทุกคนก็ร่วมกิจกรรมกันอยู่ข้างล่างตึกนั่นล่ะ เราได้ยินเสียงพี่ว๊ากพูดทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้สนใจ นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยจนเผลอหลับไป.. ตื่นมาอีกทีก็เย็นแล้ว ห

ว่ายน้ำส่งท้าย

รูปภาพ
 เราได้ฟังเรื่องนี้มาจากแม่อีกทีค่ะ พอดีแม่เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม แต่เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว อาจจะมากกว่า 10 ปีแล้ว คือที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ เป็นสระขุดของมหาวิทยาลัย มีสะพานข้าม และมีกังหันสำหรับบำบัดน้ำเสีย คืนหนึ่ง มีกลุ่มเด็กนักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่ประมาณ 4-5 คน มานั่งกินเหล้ากันตรงข้างๆ สระน้ำ คือตรงข้างสระน้ำมันจะมีซุ้มคล้ายๆ ศาลา แบบว่าให้ไปนั่งเล่นพักผ่อนรับลมได้ ด้วยความที่นั่งกินไปสักพักหนึ่ง คงเพราะความเมาด้วยล่ะค่ะ ก็มีนักศึกษาคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า ‘นี่กูก็เรียนจบละ เรียนที่นี่มา 4 ปี ยังไม่เคยได้ว่ายน้ำที่สระนี้เลย เดี๋ยวกูจะว่ายไปกลับสักรอบ..’ ว่าแล้วก็ถอดชุด และกระโดดลงน้ำไปเลย.. เท่าที่ได้ฟัง นักศึกษาคนที่กระโดดลงไปนั้นเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วยนะคะ.. ว่ายขาไปก็ไม่มีอะไร แต่พอขากลับ อยู่ๆ นักศึกษาคนนั้นก็โบกไม้โบกมือขอความช่วยเหลือจากกลางสระ ก่อนจะจมหายไป เพื่อนๆ ก็นึกว่าแกล้ง เพราะเป็นถึงระดับนักกีฬา แต่พอผ่านไปสักพัก ก็ไม่เห็นนักศึกษาคนนั้นขึ้นมา เพื่อนๆ เลยตกใจรีบลงไปช่วยกันหา แต่หายังไงก็หาไม่เจอ เวลาผ่านไปนา

ลองไหม?

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณเอฟ (นามสมมติ) มีอาชีพเป็นนักดนตรีเล่นกลางคืน.. ในทุกๆ คืน คุณเอฟจะเลิกงานประมาณเกือบๆ ตี 2 และจะกลับหอพัก ที่อยู่แถวๆ บางกะปิ.. ลักษณะของหอพักจะมีห้องน้ำรวม ซึ่งจะมีอยู่ทุกชั้น คุณเอฟเล่าต่อไปว่า.. มีอยู่คืนหนึ่ง ผมกลับมาจากเล่นดนตรีตามปกติ ก็เดินขึ้นห้อง จนมาถึงชั้น 3 มีผู้หญิงคนนึง ผิวขาว หน้าตาดีเดินผ่านมา ผมก็มอง ตามประสาผู้ชาย ที่มองผู้หญิงสวยทั่วไป.. พอมาอีกวัน ผมก็เจอผู้หญิงคนนี้อีก ที่บริเวณเดิม คือแถวๆ บันไดชั้น 3 ผมก็มองอยู่เหมือนเดิม ผมเจอเธออยู่อย่างนั้น 2-3 คืนติดกันเลย แต่เจอทีไร เธอก็ใส่ชุดแบบเดิมตลอด ผมก็คิดว่า คงเป็นชุดฟอร์มของที่ทำงาน และเธอน่าจะทำงานกะกลางคืน ที่ไหนสักแห่ง เพราะเจอเวลาเดิมๆ มาหลายคืนแล้ว.. พอกลับมาที่ห้อง ผมคิดว่าเอาวะ ถ้าเจออีกวันที่ 4 จะถามชื่อ จะจีบให้ได้ เพราะเธอค่อนข้างสวย ตรงสเปคผมเลย.. พอคืนวันที่ 4 เวลาเดิม ผมเจอเธอที่เดิมตรงบันไดชั้น 3 คราวนี้ผมลองยิ้มให้ เพื่อลองเชิงดูว่า เธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร.. และเธอก็ยิ้มตอบกลับมาครับ ผมก็กะจะถามแล้ว ว่าชื่ออะไร แต่ก็ยังก่อน รอไว้คืนพรุ่งนี้ถ้าเจออีกถามแน่ๆ.. วันต่อมา

สำรวจบ้านร้างที่ศรีสะเกษ

รูปภาพ
ผมเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ เรื่องนี้ผมได้ฟังมาจาก พี่โจ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเองครับ เรียกว่าเจอแบบจังๆ เลย คือบ้านพี่โจแกจะอยู่อำเภอกันทรลักษร์ คนละอำเภอกับบ้านผม พี่โจเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน วัยกำลังคึกคะนองเลย สมัยนั้นพี่โจแกจะเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไร เลยมักจะซน หาเรื่องพิสูจน์ท้าทายไปทั่ว และในตัวอำเภอนั้น ตรงแถวบ้านแกจะมีบ้านเก่าๆ หลังหนึ่ง ถูกปล่อยทิ้งร้างมาหลายปี ไม่มีใครสนใจคิดจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นเลย ข้างนอกมีต้นไม้ขึ้นรกเต็มไปหมด ด้วยความอยากรู้อยากเห็น วันหนึ่งพี่โจเลยชวนเพื่อนคนนึงไปดู ว่าจะมีอะไรข้างในบ้าน ช่วงบ่ายวันนั้นก็เลยพากันไปที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ก็ต้องทุลักทุเลเข้าทางหน้าต่างครับ เพราะประตูรอบๆ ถูกปิดตายหมด.. ภายในบ้านจะเหมือนกับบ้านคนเก่าคนแก่สมัยก่อน มีของใช้ถ้วยชามเป็นกระเบื้องเก่าแก่โบราณ พวกตู้ เตียง โซฟา ก็ยังอยู่ครบ คือของทุกอย่างยังวางไว้ราวกับว่ามีคนอยู่ เพียงแต่มีฝุ่นจับเท่านั้น.. เดินดูชั้นล่างเสร็จ ก็ขึ้นไปชั้น 2 ต่อ แต่พี่โจกลับต้องวิ่งตาตั้งลงมาทันที เพราะขึ้นไปเจอตุ๊กตาเด็กทารกอยู่บนชั้น 2 (พี่โจไม่เคยกลัวอะไร แต่จะเป

คืนสุดท้ายก่อนสึก

รูปภาพ
ผมกับเพื่อนได้บวช และปฎิบัติธรรมจนจะครบ 1 เดือน คืนสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันสึก หลวงตาพระลูกวัดท่านมาวานผมกับเพื่อนให้ไปช่วยขนเก้าอี้ ขนโต๊ะ และหนังสือมาเตรียมไว้ พรุ่งนี้จะมีพระมาบวชใหม่เกือบ 10 รูป ที่ท่านมาวานผมกับเพื่อน เพราะพระลูกวัดรูปอื่นรับกิจนิมนต์ไปงานศพกันหมด ท่านบอกว่า ‘ของทั้งหมดอยู่ชั้นบนของกุฏิข้างๆ โรงทาน ห้องข้างในสุดนะ..’ พอท่านเอากุญแจให้ ผมกับเพื่อนก็เดินไปที่กุฏินั้น เดินขึ้นบันไดไปถึงชั้น 2 แล้วมองตรงไปจะเห็นห้องอยู่ 4 ห้องเรียงกัน แต่ทุกห้องคล้องแม่กุญแจไว้หมด ผมก็เดินไปห้องสุดท้ายที่เก็บของ แต่มาแปลกใจตรงห้องที่ 2 ที่มันมีผ้าสีเขียวโผล่มาจากใต้ประตู คือประตูห้องมันจะยกสูงจากพื้นประมาณ 4-5 นิ้วครับ.. ผมกับเพื่อนก็เดินข้ามไปไม่ได้คิดอะไร ขนเก้าอี้ ขนของต่างๆ ลงมา และทุกครั้งที่กลับขึ้นไป ผ้าสีเขียวที่โผล่ออกมามันจะยื่นออกมามากขึ้นเสมอ ประมาณ 2-3 นิ้ว จนรอบสุดท้ายที่ขนของกันเสร็จ เพื่อนผมที่เดินตามหลังมา มันเผลอไปเหยียบผ้าเขียวนั้นเข้า แล้วก็มีเสียงดังออกจากในห้องนั้น เป็นเสียงร้องว่า ‘โอ้ย’ ทีนี้เพื่อนผมมันเลยสงสัยว่าเสียงอะไร? มันเลยก้มลงเอาหน้าแนบกับช่องประ

เสียงเคาะจากโลงศพ

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณหาญ ใจสิงห์ครับ เกิดขึ้นในช่วงที่คุณหาญ และเพื่อนยังบวชเป็นพระใหม่อยู่ คุณหาญเล่าว่า.. หลังจากที่กลับมาจำวัดแล้ว 1 สัปดาห์ ในวันอาทิตย์ตอนเย็นหลังจากทำวัตรเสร็จ พระที่เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสท่านบอกว่า ‘พรุ่งนี้ไม่ต้องไปบิณฑบาตรนะ มีกิจนิมนต์ไปบ้านหลังหนึ่ง เป็นงานศพ เขาสวดมาได้ 6 วันแล้ว วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ 7’ วันรุ่งขึ้น ผมตื่นมาตี 4 หลังจากทำวัตรเสร็จเรียบร้อย ก็ขึ้นรถไปยังบ้านที่จัดงานศพ มีพระที่วัดไปทั้งหมด 5 รูป รวมผมกับเพื่อนด้วย.. พอไปถึงบ้าน ลักษณะเป็นบ้านไม้ตามต่างจังหวัดที่ยกใต้ถุนสูง ก็ขึ้นไปบนตัวบ้านเห็นโลงศพตั้งอยู่ และมีพวงหรีดตั้งไว้ พระก็ทยอยไปนั่งอยู่หน้าโลงเพื่อที่จะเตรียมทำการสวด แต่ระหว่างนั้น หลวงตาที่มาด้วยกันท่านอยากจะเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ข้างล่าง เลยต้องรอท่านก่อน ช่วงที่รอ ผมกับเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับโลงศพก็ได้ยินเสียงดัง ‘ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..’ เพื่อนผมมันหันมาหาทันที ถามว่า ‘ได้ยินไหม?’ ผมก็พยักหน้าตอบ ‘ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..’ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มั่นใจเลยว่าดังมาจากในโลงแน่ๆ ละ ผมกับเพื่อนเลยขอตัวลงไปรอข้างล่าง ไปรอหลว

ผีปอบรอบกองไฟ

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ ผมเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ก็มักจะมีการประท้วงโบนัสกันเกือบทุกปี แต่ในด้านดีๆ ก็คือจะมีการออกค่ายอาสาอยู่เป็นประจำ ในส่วนของการประท้วง ผมจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเขาสักเท่าไหร่ สู้เอาเวลาตรงนั้นมานั่งแช่งเมียที่ห้องดีกว่าอีก แต่ถ้าเป็นการออกค่ายอาสา ผมจะไปทุกปี เพราะผมเป็นคนหน้าตาดี นิสัยดี จิตใจดี ชอบทำความดี.. ตอนนั้นใกล้ถึงวันออกค่าย ผมจึงไปตัดผมใหม่เพื่อให้ตัวเองดูสะอาดเรียบร้อย พอกลับมาถึงห้องเมียผมยังชมผมเลยว่า ‘ตัดผมแล้วหล่อเหมือนซีอุยเลย’ แล้วพอถึงวันเข้าค่าย ผมกับเมียจะต้องนั่งรถไปกับ พี่เก่ง ตอนแรกว่าจะเอารถผมไปเอง แต่ว่าไม่น่าจะเสี่ยง เพราะแค่แมลงบินชนกระจกเครื่องแม่งก็ดับแล้ว เราออกเดินทางกันตอนเที่ยงคืน กะว่าจะไปถึงนั่นเช้าพอดี แต่ผมกลัวว่าถ้าให้พี่เก่งขับ เราจะไปถึงเช้าของอีกวันหนึ่งแทน เพราะแกขับรถเร็วกว่ายายปั่นจักรยานนิดเดียว ผมจึงต้องขับเองครับ พอไปถึงก็เช้าพอดี พวกพี่ๆ ที่ไปถึงก่อนเห็นผมมาก็เดินเข้ามาทักผม ‘มาแล้วหรอ ณเดช?’ ผมก็ตอบไปว่า ‘ทักผิดคนแล้วพี่ ผมมาริโอ้ต่างหาก..’ แล้วเราก็บำเพ็ญประโยชน์กันทั้งวัน จนถึงตอนเย็น ก็จะมีการ

หอพักชั้น 4

รูปภาพ
เรื่องนี้หลายปีมาแล้ว ตอนนั้นเราอยู่หอที่เชียงใหม่ แถว วค. เป็นหอที่อยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี ห้องที่เราอยู่อยู่ชั้น 4 เป็นชั้นบนสุด และริมสุด มองลงไปเห็นทางสามแพร่งเลย ห้องติดกันเป็นน้องผู้ชายที่เพิ่งย้ายขึ้นมาจากชั้น 2 เนื่องจากเป็นหอที่สร้างมานาน ประมาณ 10 ปี+ ก็เลยมีโทรศัพท์สายตรงในห้องด้วย ก็ใช้โทรศัพท์นี่แหละคุยกันกับน้องผู้ชาย คือจีบเค้าว่างั้นเหอะ เรื่องมีอยู่ว่า คืนหนึ่งเรากลับจากไปเที่ยวร้านอุ่นเครื่องกับเพื่อน กลับมาก็ตี 2 กว่าแล้ว เพื่อนก็มาที่ห้องเรา อยู่รอแฟนมารับไปส่งบ้าน ประมาณเกือบตี 3 เราได้ยินเสียงเปิดประตูของห้องน้องข้างๆ แล้วก็ปิด แล้วก็เสียงคนเดินออกไป เราก็รีบแอบเปิดประตูออกไปดูให้ทันตอนเค้าเลี้ยวลงบันไดพอดี แต่ภาพที่เห็นคือน้องเค้าเดินลงไปกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก แถมน้องผู้หญิงคนนั้นยังหันมายิ้มให้เราด้วยแบบขำๆ เราก็แบบ ตายห่าละ แฟนเค้าหรือเปล่า? สงสัยไปเล่าให้แฟนฟังหมดแล้วมั้ง เรื่องที่เราโทรไป ก็เลยแบบเฟลอ่ะ ก็กลับมาบ่นกับเพื่อนว่า เนี่ย..น้องข้างห้องออกไปกับแฟน เซ็งเลย คืนต่อมา น้องเค้าก็โทรมาคุย (เอ๊ะ หรือเราโทรไปไม่แน่ใจ) ก็คุยนั่นโน่นนี่ไปเ

7 ศาลา

รูปภาพ
 เมื่อไม่นานมานี้ ช่วงก่อนวันสงกรานต์ ผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อจะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด ผมขับรถไปคนเดียวครับ ทีนี้พอเข้าสู่โคราช มันจะมีเส้นทางหนึ่งที่เป็นทางตรงยาวๆ ไม่มีบ้านคน ไม่มีไฟถนน มีแต่ศาลาท่ารถเก่าๆ มืดๆ ตลอดทาง จู่ๆ ผมก็ดันนึกถึงเรื่องที่พี่คนหนึ่งที่รู้จักกันเคยเล่าให้ฟัง ว่าเคยมีหญิงสาววัยรุ่นท้องอ่อนเพิ่งเลิกกับแฟน และโดนแฟนไล่ออกจากบ้าน เธอจึงมารอรถอยู่ที่ศาลาท่ารถ แต่โบกรถคันไหนก็ไม่มีใครจอดรับ.. จนพลบค่ำ มีรถโดยสารประจำทางคันหนึ่งกำลังจะผ่านมา เธอก็ออกมาโบกรถ แล้วล้ำเส้นขอบทางออกมามากเกินไป รถโดยสารก็คงไม่ทันเห็นเลยชนเธอเข้า แล้วลากไปไกลกว่า 7 ศาลา รอยเลือดนี่ยาวไปตลอดทาง เช้ามาถึงมีคนมาพบศพ และหลังจากนั้น เรื่องราวความเฮี้ยนของเธอก็ได้เริ่มต้นขึ้นครับ คือช่วงระหว่างศาลาที่ 1 ถึง 7 ชาวบ้านมักจะเห็นเธอมายืนโบกรถตลอดทุกศาลา ยิ่งถ้าหากเป็นรถโดยสารแล้วล่ะก็ เธอจะวิ่งตามตั้งแต่ศาลาที่ 1 ยัน 7 เลย หรือบ้างก็รถดับเองที่ศาลาที่ 1 แล้วได้ยินเสียงเหมือนคนขึ้นรถ พอออกรถวิ่งต่อ ก็ไปดับอีกตรงศาลาที่ 7 แล้วพอรถออกไปใหม่ คนขับจะเห็นเธอยืนอยู่ท้ายรถตรงศาลานั้น..

ถนนดินทรายยามดึก

รูปภาพ
เตี้ยเป็นคนภาคอีสานค่ะ เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่ภาคอีสาน ด้วยความที่ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานมาก ทำให้เตี้ยตระเวนไปเยี่ยมเพื่อนๆ ญาติๆ ตามหมู่บ้านต่างๆ แทบจะทุกวัน จนมีวันหนึ่ง เตี้ยให้พี่ชายคนรองขับรถพาไปเยี่ยมย่า และบรรดาอาๆ ที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งห่างออกไปราวๆ 5 กิโลเมตร ตอนแรกพี่ชายก็บ่นบอก ‘เอาไว้พรุ่งนี้ได้ไหม? นี่ก็ 4 โมงเย็นแล้ว เวลาเตี้ยไปหาเพื่อนหาญาติ ชอบติดลม พี่ไม่อยากขับรถตอนกลางคืน ไฟหน้ารถมันไม่ค่อยดี..’ พี่ชายคนรองเตี้ยบ่นซะยาว เตี้ยเลยบอกกับพี่ชายว่า ‘ถ้าไม่พาไป งั้นเอากุญแจรถมา เตี้ยไปเองก็ได้ ถ้าเมาแล้วขับอย่ามาบ่นทีหลังละกัน..’ พอพูดจบ ทั้งแม่ทั้งพี่ชายรีบร้องห้ามใหญ่ บอกห้ามไปคนเดียวนะมันอัตราย เดี๋ยวนี้บ้านเราไม่เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ สุดท้ายพี่ชายคนรองก็ต้องขับรถไปส่งเตี้ยจนได้ เตี้ยนั่งหน้าข้างพี่ชาย ตามองสองข้างทางที่เปลี่ยนไปมาก ถนนเส้นที่พี่ชายพามาเป็นเส้นทางลัด เป็นถนนดินทรายที่ชาวบ้านเขาใช้เวลาไปไร่ไปนา สองข้างทางที่เตี้ยจำได้มันเคยเป็นไร่มันสำปะหลัง แต่ตอนนี้เป็นไร่อ้อยแทน เตี้ยชวนพี่ชายคุยไปเรื่อย แต่ส่วนมากพี่ชายก็จะตอบมาแค่

รวมมิตรสยอง

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ขนหัวลุก เรื่องเด็ด ที่แอดมินได้เคยฟังมาสักพักแล้ว เลยอยากจะขอเอามาแชร์ให้ฟังกัน เรื่องของคุณเอ็กซ์ (นามสมมติ) ปกติแล้วคุณเอ็กซ์ ไม่เคยเชื่อเรื่องผีมาก่อน จนมาได้เจอเข้ากับตัวเองจังๆ คุณเอ็กซ์เล่าว่า.. ขนลุกเลยครับ! เมื่อคืนก่อนครับ ผมขับรถกลับจากงานศพเพื่อน ที่ต่างจังหวัด มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ขับมาคนเดียวครับ ช่วงประมาณ 4 ทุ่มกว่า ก็ได้กลิ่นเหม็น แปลกๆ ตุๆ ผมก็คิดว่า กลิ่นคงมาขยะข้างทาง หรือท่อน้ำเสีย ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ก็ขับต่อไปเรื่อยๆ..  คุณพระ! ใจหายวูบเลย เห็นเงาคนวิ่งตัดหน้ารถ แล้วจู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ ผมตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก คิดในใจว่าคงโดนเข้าแล้ว.. พอตั้งสติได้ รีบหยิบมือถือมา กดโทรไปหาเพื่อน เพื่อนคนนี้เคยเจอผีหลอก เพื่อนมันแนะนำว่า ให้ใช้พระคล้องคอสิ ผมก็หาพระ แต่เอ๊ะ! เมื่อกี้เราโทรไปเบอร์เพื่อนที่ตายไปแล้วนี่ เฮ้ย! กลัว.. จากนั้นผมรีบเปิดประตูรถ วิ่งไปขอความช่วยเหลือ พอดีเจอบ้านคน มีชาวบ้านแถวนั้น เขาบอกให้ไปหาตำรวจตรงสถานีใกล้ๆ พอผมวิ่งไปหาตำรวจ ตำรวจบอกว่า ‘แถวนั้นไม่มีชาวบ้าน ไม่มีบ้าน ไม่มีถนน จะขับไปได้ไง?’ ผมกลัวมาก คืนนั้นเลยขอนอนที่สถาน

ผีรุมที่สงขลา

รูปภาพ
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ผมไม่เคยเล่าที่ไหนเลยครับ และมันก็เป็นเรื่องที่ผมลืมไม่ลงเลยจริงๆ ย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมจะกลับบ้านที่สงขลา ผมเลยชวนแฟนผมไปด้วย ออกเดินทางช่วงดึกๆ ขับรถไปกันสองคน ผมเป็นคนขับแฟนนั่งข้างๆ พอเข้าเขตสงขลาช่วงถนนสายเอเชียรถจะติดมากๆ ผมเลยวกเข้าทางลัดซึ่งเป็นทางเปลี่ยว มีโค้งเยอะหน่อย คนพื้นที่จะรู้ดีครับ ผมก็ขับไปเรื่อยๆ ผ่านตามโค้งแล้วโค้งเล่า แฟนผมก็นั่งมองสองข้างทางไปเรื่อยๆ จนจะผ่านโค้งหนึ่งที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ผูกด้วยผ้า 3 สี น้ำแดง ของเล่น ชุดไทยห้อยและวางเรียงราย ผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่บีบแตร แต่จะยกมือขึ้นไหว้แทน ผ่านต้นโพธิ์นั้นไปจนจะถึงโค้ง ก็เห็นหญิงสาวผมยาวก้มหน้าโบกรถอยู่ แฟนผมตะโกนเลยครับ ‘ศิลป์ๆ อย่าจอดนะมึง ขับไปเลย กูชักไม่มั่นใจว่ะกลางคืนแบบนี้..’ ผมก็คิดแบบนั้นครับ เลยขับผ่านเธอไปจนพ้นโค้ง คราวนี้รู้สึกว่าในรถมันชักเย็นๆ แปลกๆ แฟนผมก็ดันปากไวพูดสวนขึ้นมาเลย ‘อย่ามายุ่งกับพวกกู กูไม่กลัวมึงหรอก!’ ผมนี่นั่งเงียบเลยครับ.. จนจะผ่านไปอีกโค้ง ก็เจอผู้หญิงคนเดิมโบกรถอีก! แต่คราวนี้มันหน้ากลัวตรงที่เธอไม่ได้ก้มหน้า แต่กลับมองมาทางพวกผม ตานี่แดงก่ำ ผมถึงก

เรื่องเล่าของโรงเรียน

รูปภาพ
เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นตรงกับช่วงแข่งกีฬาสี พวกหลีดก็จะอยู่ซ้อมกันจนมืดทุกวันครับ ตัวผมเองเป็นมือกลอง เลยจำเป็นต้องอยู่ซ้อมด้วย ในกลุ่มก็จะมีเด็กหลายๆ รุ่นปะปนกันไป พอช่วงพักฟ้าเริ่มจะมืด พวกรุ่นพี่ก็จะชอบพาน้องๆ มาจับกลุ่มเล่าประสบการณ์สยองในโรงเรียนให้ฟังกันครับ มีรุ่นพี่คนหนึ่ง แกเล่าเรื่องผีห้องนาฏศิลป์ครับ ก่อนอื่นผมขออธิบายตำแหน่งของห้องก่อนนะครับ คือห้องนาฏศิลป์เนี่ย จะตั้งอยู่ในตึก 2 ชั้น ซึ่งตึกนี้จะมีลักษณะเป็นตึกล้อมรอบ 4 ด้าน ตรงกลางจะเป็นสนามปูน กับสวนหย่อมขนาดเล็กครับ มีทางเข้าออก 4 ทิศทาง.. รุ่นพี่เขาเล่าว่า ‘มีคุณครูท่านหนึ่งต้องอยู่นั่งเคลียร์งานจนค่ำ ห้องของครูท่านนี้จะอยู่ติดกับห้องนาฏศิลป์ครับ เวลาตอนนั้นน่าจะประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม บนตึกไม่มีใครอยู่แล้ว บรรยากาศเงียบมากๆ ไม่มีแม้แต่เสียงแมลง เสียงลม หรือใบไม้เลย ครูเล่าว่า ระหว่างนั่งทำงานอยู่ ก็มักจะมองเห็นเหมือนมีอะไรไหวๆ อยู่ที่หางตา แต่พอหันไปก็ไม่เจออะไร และบางทีจะได้ยินเสียงขิมดัง แตร๊ง.. แว่วมาเบาๆ เหมือนใช้มือสัมผัส.. จนบ่อยครั้งเข้า ครูจึงเก็บของเดินออกจากห

เรียนเดี่ยวไวโอลิน

รูปภาพ
เอาจริงๆ เหตุการณ์นั้นทุกวันนี้ก็ยังงงๆ อยู่นะคะ ว่ามันคือเรื่องจริงหรือเปล่า? ย้อนกลับไปประมาณสัก 5 ปี เราเพิ่งเรียนจบด้านดนตรีสากลมาใหม่ๆ เลยรับงานเป็นครูสอนพิเศษ สอนดนตรีสากลตามโรงเรียนสอนดนตรี โรงเรียนที่เราได้ไปสอนจะอยู่ฝั่งธนค่ะ.. วันหนึ่งมีผู้ปกครองพาเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5 ขวบ ชื่อน้องเชอร์รี่ มาลงเรียนไวโอลินเดี่ยว คือที่โรงเรียนจะมีคอร์สให้ลงเรียนเป็นกลุ่ม กับเรียนเดี่ยวน่ะค่ะ แล้วตอนที่น้องมาลงเรียน ห้องดนตรีสากลไม่มีห้องไหนว่างเลย ผู้จัดการโรงเรียนเลยตัดสินใจให้ไปสอนที่ห้องเรียนดนตรีไทยไปก่อน เพราะว่าอีก 3 อาทิตย์ก็จะมีนักเรียนจบคอร์ส แล้วถึงค่อยย้ายห้อง ซึ่งทางผู้ปกครองก็ไม่ติดอะไร จากนั้นเราก็สอนน้องเชอร์รี่ไปตามปกติ แต่แล้วสักประมาณอาทิตย์ที่ 2 เรื่องก็เกิดค่ะ ผู้ปกครองของน้องโทรมาโวยวายกับทางโรงเรียน ว่าลูกเขาลงเรียนเดี่ยว แล้วทำไมถึงไม่ให้ลูกเขาเรียนเดี่ยว แต่กลับให้เรียนปนกับเด็กคนอื่น? เขาไม่พอใจมากเพราะคิดว่าทางโรงเรียนโกงชั่วโมงเขา.. วันนั้นผู้จัดการโรงเรียนเลยโทรมาหาเรา ถามเราว่า ‘ได้สอนเด็กคนไหนเพิ่มในคลาสน้องเชอร์รี่หรือเปล่า?’ เราก็งง ตอบไปว่า ‘ไม่มีค่ะ สอ

ผีมาเกิด

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงชื่อปลา ซึ่งปลาแต่งงานมา 2 ปี และตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว ปลามีสามีเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ปลากับสามีจึงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ ปลาเริ่มรู้สึกว่าพักหลังมานี้ตนเองกลัวการนอนหลับ เพราะทุกครั้งที่นอนหลับจะรู้สึกเหมือนมีคนมาอยู่ในห้องด้วยเสมอ ปลาต้องแอบกินยานอนหลับเป็นประจำทุกครั้งที่เธอต้องนอนคนเดียว ปลาเล่าให้สามีฟัง สามีปลาได้แต่แนะนำให้ปลาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ศพไม่มีญาติ ซึ่งปลาก็ทำตาม และก็รู้สึกดีขึ้น.. วันหนึ่งปลาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับสามีของเธอเป็นเวลา 2 คืน และในงานเลี้ยงที่โรงแรมในคืนแรกนั้น ปลาขอตัวกลับขึ้นห้องมาก่อนเพราะรู้สึกปวดหัว ปลาล้มตัวนอนหลับไปบนเตียง สักพักใหญ่ปลาได้ยินเสียงคนพูดกระซิบเบาๆ ทั้งเสียงผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เสียงนั้นก้องอยู่รอบตัว และปลาลืมตาขึ้นมา.. สิ่งที่ปลาเห็นคือ เงาดำทะมึนคล้ายร่างคนนับ 10 ยืนล้อมเตียงเธออยู่.. ปลาตกใจมากจนสลบไป.. หลังจากนั้นปลาได้ไปหาหมอด้านไสยศาสตร์ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หมอท่านนั้นหัวเราะเบาๆ และบอกกับปลาว่า.. “เพราะว่ากำลังท้องไง.. พวกผีไม่มีญาติเลยตามมา อยากจะม

ผีแม่หม้ายเฮี้ยน

รูปภาพ
 เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีมาแล้ว ผมเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิด แต่เรื่องราวไม่ได้เกิดที่หาดใหญ่หรอกนะครับ คือที่บ้านผมส่วนใหญ่จะรับราชการกันหมด ช่วงนั้นลุงของผมต้องเดินทางไปรับตำแหน่งบริหารใหม่บนเกาะแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล ค่อนข้างมีความเจริญ เพราะเป็นตำบลที่มีเกาะท่องเที่ยวอยู่มาก ซึ่งแน่นอนว่าลุงผมก็จะต้องหาบ้านพักครับ บ้านพักของสำนักงานก็เต็มหมดแล้ว เลยต้องเช่าบ้านข้างนอก ก็ไปเจอบ้านหลังหนึ่งสภาพใช้ได้ แต่ว่าอยู่ในสวนยางพารา ห่างไกลจากบ้านหลังอื่นพอสมควร แต่ที่น่าตกใจคือราคาเช่าเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ลุงเลยตกลงเช่าไปครับ วันแรกที่ลุงย้ายไปอยู่ ก็ไปส่งกันหลายคนครับ นอนกันที่นั่นเลย เพียงแค่คืนแรกก็มีเหตุต้อนรับเลยล่ะครับ พอฟ้าเริ่มมืดไฟในบ้านก็ดับหมดเลย ลุงผมเลยออกไปดู (แกเป็น ผอ.กองช่างในสมัยนั้นครับ เลยมีความรู้เรื่องช่างพอตัว) ก็ปรากฏว่าทุกอย่างปกติดีไม่มีอะไรเสียแต่ไฟมันไม่ติดเอาดื้อๆ คืนนั้นก็เลยต้องจุดเทียนนอนกันครับ ที่แปลกคือ พอตื่นเช้ามาไฟก็ติด ทีวีก็เปิดตามปกติครับ เหตุการณ์มันก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยมา แต่ที่เป็นหนักๆ คือไฟห้องน้ำครับ มันจะติดๆ ดับๆ พอจะเปิดใช้ดันดับ พอจะ

เด็กผู้ชายในหอพัก

รูปภาพ
 เรื่องเกิดเมื่อหมายปีมาแล้ว ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งแถววงเวียนใหญ่ เข้าใจว่าที่นี่สร้างบนพื้นที่ชุมชนเก่า อาจเพราะพลังงานวิญญาณที่นี่ค่อนข้างแรง เรื่องหลอนๆ จึงมีเยอะมาก มีวันหนึ่ง ผมขึ้นลิฟท์จะไปยังชั้น 4 ห้องของผม ขึ้นมาคนเดียวนะ แต่กลับได้ยินเสียงเด็กพูดอยู่ข้างหลัง บอกว่า  ‘ชั้น 3 ชั้น 3..’  ผมคิดว่าคงโดนแล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะค่อนข้างชินกับเรื่องพวกนี้ ผมก็กลับห้องไปนอน พร้อมสวดคาถากันไม่ให้เด็กคนนั้นเข้าห้องได้ แต่! วันต่อมาน้องเขาก็เอาอีกครับ ได้ยินเสียงในลิฟท์บอก ชั้น 3 อีกแล้ว ผมชักหงุดหงิดเลยไปถาม รปภ. ว่ามีใครเคยเจอไหม? รปภ. หน้าซีดแล้วบอก เจอกันเยอะ โดยเฉพาะแม่บ้าน มีโดนกระตุกเสื้อด้วยนะ ลาออกไปแล้วเพราะหลอน พอวันถัดมา ด้วยความที่เป็นคนไม่กลัวเรื่องพวกนี้ พอเข้าไปในลิฟท์ได้ยินเสียงอีก คราวนี้ผมกดเปิดชั้น 3 เลย เข้าใจว่ายังไงคนที่อยู่ชั้น 3 เขาก็ต้องเปิดเข้าเปิดออกอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรหรอก ผมเปิดลิฟท์ชั้น 3 เพื่อจะได้รู้ว่าแล้วจะยังไงต่อ? แต่มันไม่จบแค่นั้นครับ.. หลังจากผมเปิดลิฟท์แล้ว ชายเสื้อด้านหน้าผมก็โดนกระตุกจากด้านนอก ด้วยความสงสัยอีก

ศพคุณทวด

รูปภาพ
วันหนึ่ง ครอบครัวผมคุยกันว่าจะย้ายที่ฝังศพคุณป้า และคุณทวดของผม ตอนแรกผมเข้าใจว่ามันผิดกฎหมาย แม่อธิบายให้ผมฟังว่าหลุมศพสามารถย้ายที่ตั้งได้ แต่ต้องทำเรื่องตามกฎหมายเสียก่อน ครอบครัวของผมก็ไปทำเรื่องกับทางการ วันแล้ววันเล่า จนใกล้จะถึงวันย้ายหลุมศพ เราจึงทำพิธีศพใหม่อีกครั้งเพื่อรำลึกถึงคุณป้า และคุณทวดที่จากไป คนในครอบครัวของผมมาร่วมงานน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นญาติห่างๆ ที่อยากมาแสดงตัวให้เห็นในงานเพื่อร่วมเคารพศพเสียมากกว่า หลังเสร็จพิธี พวกผู้ใหญ่ก็ทำการขุด ยก และขนโลงศพคุณป้าขึ้นไปยังรถกระบะ ต่อจากนั้นก็ไปขนศพของคุณทวดต่อ หลุมศพของคุณทวดจะขนยากกว่าของคุณป้า เพราะบริเวณที่ฝังเก่ามากจนเป็นหินแข็ง ต้องใช้เครื่องขุดเจาะมาช่วย เมื่อขุดเจอโลงศพ ก็ต้องใช้เครื่องยกโลงขึ้นมาจากหลุม แต่เพราะโลงศพเก่ามาก จึงทำให้ฝาโลงหลุด ส่วนตัวโลงหล่นกลับลงไปในหลุม และภาพที่พวกเราเห็นนั้นเป็นภาพที่น่ากลัวมากๆ โลงศพของคุณทวดมีแต่รอยขีดข่วน ร่างของคุณทวดนอนคว่ำ มือประสานอยู่ที่หน้า นั่นทำให้พวกเรารู้ว่า.. ท่านถูกฝังทั้งเป็น! Story by  คุณ Korn Srisawat

ที่ใต้ต้นมะปราง

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเมื่อตอนอายุประมาณ 10 ขวบเท่านั้น บ้านผมอยู่จังหวัดสุโขทัยครับ ในอำเภอที่ผมอยู่นั้น ส่วนมากจะทำสวนผลไม้กันเป็นส่วนใหญ่ เช่นสวนมะม่วง สวนกล้วย สวนละมุด เป็นต้น อาจจะมีปลูกต้นไม้อื่นแซมเพิ่มในสวนบ้าง เช่นมะปราง กระท้อน ขนุน มะพร้าว อะไรประมาณนี้ และเรื่องมันก็เกิดขึ้นในสวนผลไม้นั่นล่ะครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำค้างเริ่มลงมาบ้างแล้ว ซึ่งน้ำค้างนั้นเป็นอาหารชั้นดีของเหล่าจิ้งหรีด ซึ่งในสวนผลไม้จะมีจิ้งหรีดอยู่เป็นจำนวนมาก และเจ้าจิ้งหรีดนี่ล่ะ เป็นอาหารโปรดของผมเลยทีเดียว คืนนั้น เสียงจิ้งหรีดร้องระงมดังไปทั่วทั้งสวนเลย มันชวนให้น่าออกไปจับยิ่งนัก ผมเลยชวนอาเขยออกไปจับจิ้งหรีดกัน วิธีการจับก็ไม่ยากเท่าไร แต่ถ้าคนไม่เคยก็อาจจะยากสักหน่อย คือธรรมชาติของจิ้งหรีดเวลามันร้อง มันจะออกมาอยู่ที่ปากรูของมัน แต่หากมีอะไรไปรบกวน มันจะรีบมุดเข้ารูของมันทันที เวลาจับเราจะใช้เสียมอันเล็กๆ ปัก เพื่อดักรูมันไว้ไม่ให้มันมุดเข้ารูมันได้ แล้วก็จับตัวมันใส่ขวด ขวดที่ใช้ก็ขวดน้ำอัดลมพลาสติกนั่นล่ะครับ สองคนอาหลานเดินหาจับจิ้งหรีดกันไปเรื่อย จากสวนหนึ่งไป

ความรักสีดำ

รูปภาพ
คุณเคยมีเพื่อนสนิทในกลุ่มที่มีสัมผัสพิเศษแรงๆ สามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับได้ไหมครับ? ถ้ามี แล้วเขาบอกเขาเตือนอะไร ฟังเอาไว้บ้างก็ดีครับ.. เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มผม สมัยที่เรียนอยู่ ปวช. ปี 1 เพื่อนผมคนนี้มีชื่อว่า นก ครับ เป็นคนบุคลิกห้าวๆ คล้ายผู้ชาย แต่รูปร่างหน้าตาน่ารัก คือถ้าแต่งหญิงหวานๆ จะสวยมากเลย นกจะเป็นคนทักนู่นทักนี่แปลกๆ อยู่บ่อยครั้ง มีครั้งหนึ่ง นั่งกินขนมกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนตอนเช้าก่อนเข้าเรียน มีเพื่อนผู้ชายอยู่คนละห้องกับพวกผม ใส่ชุด รด. มาเลย เดินมาคุยกับไอ้พันที่นั่งตรงข้ามผม ไอ้พันบอกว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ บ้านมัน เป็นคนชอบชุด รด. มาก บอกเท่ห์ดี ระหว่างที่เพื่อนคนนั้นคุยกับไอ้พัน อยู่ๆ นกก็พูดขึ้นมาว่า ‘ใส่แล้วหล่อดีนะ! แต่คงจะได้ใส่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ..’ พวกผมได้ยินก็หันไปมองหน้านกกันหมด นกไม่พูดอะไร แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเหมือนไม่มีอะไร.. ในวันต่อมา อาจารย์ได้ประกาศหน้าเสาธงตอนเช้าว่ามีเด็กนักเรียนชื่อ-นามสกุลนี้ ไปฝึก รด. แล้วเกิดหัวใจวายเสียชีวิตเมื่อวานนี้ พวกผมพร้อมใจกันหันไปมองหน้านกกันหมดเลย นกได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร.. เ