บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2019

พนักงานที่ร้านอาหาร

รูปภาพ
ทุกวันนี้ แป้งต้องไปทำงานพิเศษตอนเย็นค่ะ เป็นร้านอาหารแบรนด์ขึ้นห้าง ที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่สาขาที่แป้งทำงานนั้น เปิดอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐมค่ะ ที่ผ่านมา มันก็เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มีอยู่วันนึง แป้งกับเพื่อนคนอื่นๆ ในร้านคุยเล่นกันที่เคาน์เตอร์เสียงดังมากค่ะ ประมาณว่ายืนอยู่ตรงโต๊ะลูกค้า ก็ยังได้ยินเลย จนพี่ที่เป็นหัวหน้าเข้ามาว่า ‘ที่นี่ห้ามเสียงดัง ห้ามใช้คำหยาบแบบนี้ เพราะเดียวจะเจอดี..’ พวกแป้งก็งงค่ะ เลยถามพี่เค้า พี่เค้าเลยบอกว่า ‘ตอนมาใหม่ๆ พี่ก็เคยเล่นกันแบบนี้ล่ะ เสียงดัง ตะโกนด่ากันบ้าง แล้วอยู่ๆ เครื่องหมักไก่ก็หมุนเอง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก! ทุกคนเลยเงียบกันหมด’ และพี่เค้าก็บอกอีกว่า ‘ตรงเครื่องล้างจานนี่ เมื่อก่อนเป็นศาลตายาย ท่านไม่ชอบเสียงดัง และไม่ชอบคำหยาบ เพราะงั้นอย่าเสียงดัง อย่าใช้คำหยาบแบบนั้นอีก!’ แป้งกับเพื่อนๆ ก็เลยเลิกเล่นกันไปค่ะ แต่ในใจ ก็คิดว่าพี่เค้าคงกุเรื่องมากกว่า เพื่อให้พวกแป้งเลิกเล่นเสียงดังกัน ผ่านไปหลายวันจนลืม.. มีวันนึง แป้งกับเพื่อนๆ อยู่ปิดร้านกัน เวลาปิดร้าน เราจะปิดกัน 4 คน มีแคชเชียร์ ผู้จัดการ พ่อครัว แล้วก็เด็กเ

ผีแอดเพื่อนมา

รูปภาพ
 ผมเป็นนักเรียน ม.5 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ครับ เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อช่วงใกล้ๆ เช้าของวันเสาร์ที่แล้ว ขณะที่ผมนอนอยู่ ฝันว่ามีผู้หญิงคนนึง เดินมาข้างๆ เตียง และกระซิบข้างหูผมว่า ‘รับแอดเราหน่อย..’ ก่อนจะเดินหันหลังหายไป.. พอสายๆ ผมตื่นมา หยิบมือถือที่อยู่ข้างๆ มาเช็คเฟสตามปกติ ก็เห็นว่า มีผู้หญิงที่ผมไม่รู้จัก แอดมาขอเป็นเพื่อน 1 คนจริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร กดรับไป.. ปกติเวลารับแอดใคร ผมก็จะเข้าไปส่องหน้าไทม์ไลน์เค้าดูก่อน พอกดเข้าไป ผมก็ต้องตกใจ เพราะว่าทั้งหน้าไทม์ไลน์ ของผู้หญิงคนนี้ มีแต่คนมาโพสว่า ‘หลับให้สบายนะ’ ‘ขอให้ไปสู่สุขติ’  ‘R I P’  ‘จะไม่มีวันลืมเธอเลย’ และประโยคร่ำลาอื่นๆ อีกมากมาย.. ผมรีบกดลบเพื่อนออกทันที และก็นั่งคิดว่า ผมรู้จักกับเค้ารึเปล่า? แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก เพราะผมไม่คุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้เลย ในคืนวันต่อมา ผมก็นั่งดูทีวีในห้องนอน จู่ๆ ก็มีเสียงมือถือดัง พอหยิบขึ้นมาดู ก็เป็นผู้หญิงคนเดิมนี้ แอดมาขอเป็นเพื่อนอีกครั้ง ผมก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้ว แต่ด้วยความอยากรู้ ผมก็กดรับไปอีกครั้ง และเข้าไปดูในหน้าโปรไฟล์ของเธอ ผมก็ไปสะดุดกับสิ่งหนึ่ง คือโรงเรี

ผมไม่ถูกกับน้ำ

รูปภาพ
เหตุการณ์ที่จะเล่านี้เกิดขึ้นกับตัวผมเองครับ เป็นการเกิดอุบัติเหตุที่แปลกมากๆ ก่อนอื่นต้องขอย้อนกลับไปตอนผมบวชเณรก่อน พระอาจารย์ทักผมก่อนที่จะสึกว่า ‘ดวงเอ็งอย่าทำอะไรที่ต้องไปทางน้ำนะ ให้หลีกเลี่ยงเด็ดขาด..’ ตอนนั้นยังเด็กผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนวันหนึ่งครอบครัวผมไปเที่ยวทะเลกัน ด้วยความที่ผมเป็นเด็ก ผมก็ลงไปเล่นทะเลตรงที่น้ำลึกแค่ครึ่งหัวเข่า ผมยืนเล่นๆ ไป แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงพูดว่า ‘ไปอยู่..ด้วยกันเถอะ..’ เป็นเสียงผู้ชายแหบๆ แห้งๆ ครับ พอสิ้นเสียง ผมก็ล้มลงแบบไม่มีสาเหตุเลย ล้มแบบหงายหลังลงไปนอนอยู่ในน้ำเฉยๆ แล้วผมเห็นเป็นเงาดำๆ กำลังคร่อมผม สองมือกดแขนผม สองขาเหยียบขาผมไว้ แล้วจากนั้นผมก็หมดสติวูบไปเลยครับ มารู้สึกตัวอีกทีคือขึ้นมาจากน้ำแล้ว ญาติๆ ผมเล่าว่า เห็นผมนอนหงายอยู่ใต้พื้นน้ำ ในสภาพที่แปลกประหลาด คือไม่ไหลตามคลื่นน้ำเลย.. จากเหตุการณ์นั้น 1 ปี ก็เกิดเหตุอีกครั้งครับ ผมไปฝึกว่ายน้ำกับพ่อ โดยใส่ชูชีพมีห่วงยางพร้อม ขณะที่ผมว่ายน้ำอยู่ จู่ๆ ตัวผมก็ไหลทวนน้ำไปเลยครับ เหมือนโดนดึงอย่างแรง และในขณะที่โดนดึง ผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเย็นๆ ยานๆ พูดขึ้นมาว่า ‘มาอยู่…ที่นี่ แทนหน่อย

บ้านของจ่าท้วม

รูปภาพ
ในชีวิตผม ได้เห็นคนถูกผีเข้า 3 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกก็ป้าลิ้มหาหน่อไม้จากเรื่อง  ‘หน่อไม้ผีตายโหง’  ที่เคยเล่าให้ฟังคราวที่แล้ว ครั้งที่ 2 นี้เกิดขึ้นหลังบ้านผมเลยครับ บ้านที่นครสวรรค์ เรื่องราวจะเป็นยังไง ผมจะเล่าให้ฟัง.. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ป้าลิ้ม 10 กว่าปีได้ จนป้าลิ้มแกย้ายออกจากชุมชนไปแล้ว ผมเองก็โตขึ้นจนรู้อะไรเป็นอะไรแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังบ้านผมเนี่ย มันเป็นซอยเล็กๆ ข้างในซอยจะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ อยู่มานาน ก่อนที่พ่อแม่ผมจะมาสร้างบ้านอีก บ้านนี้เป็นของตระกูลทหารตำรวจ สืบทอดกันมาหลายรุ่น จนมารุ่นของ จ่าท้วม ชื่อจริงแกชื่ออะไรไม่ทราบ แต่คนแถวบ้านจะเรียกแกว่าจ่าท้วม เพราะตัวแกอ้วนกลมเหมือนมะขามข้อเดียว แกเป็นอดีตทหารเก่า แก่เกษียนก่อนกำหนด ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่าท้วมแกมีนิสัยแปลก ชอบเที่ยวป่า ล่าสัตว์ สมัยนั้นกฏหมายยังไม่เข้มงวด จ่าท้วมมักจะหายจากบ้านไปหลายวัน แล้วจะกลับมาพร้อมสัตว์แปลกๆ แกเอามาเลี้ยงบ้าง กินบ้าง ที่เห็นๆ ในบ้านแกมีกรงชะนี ลิงแปลกๆ นกยูง เก้ง ชะมด เยอะแยะมากมาย เหมือนบ้านแกเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ หลานชายจ่าท้วมแกเป็นเพื่อนกับผม วันดีคืนดีก็จะ

อากงกับแมวดำสยองขวัญ

รูปภาพ
 สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์ ที่เกิดกับตัวเอง สมัยเรายังอายุแค่ 4-5 ขวบ ซึ่งมาตอนนี้ เราก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่แม่ของเรา เป็นคนเล่าให้เราฟังอีกที แม่บอกว่า ตอนนั้น เราย้ายมาอยู่คอนโด แถวย่านบางกะปิ ห้องอยู่ชั้น 5 อาศัยอยู่กับป้า แล้วก็แม่ค่ะ.. เราชอบทักว่าเห็นแมวดำหลายๆ ตัว แถวบริเวณคอนโด ทั้งๆ ที่คอนโดก็ไม่ได้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ ทีแรกแม่เราก็นึกว่า เราไปเล่นกับแมวที่อื่นมา แล้วเพ้อ.. แต่พักหลังๆ แม่เห็นว่าเราทักบ่อยเกินไป จนแม่ชักใจไม่ดี เลยถามเราว่า ‘แมวดำที่เห็นมีกี่ตัว แล้วเป็นยังไง?’ เราตอบแม่ไปว่า ‘หลายตัวเลย ประมาณ 5-6 ตัว แต่ละตัวมีเลือดออกด้วย น่าสงสารมากๆ เลย’ แม่ตกใจมาก จนวันรุ่งขึ้นพาเราไปวัด ทำบุญ ปล่อยปลา อโหสิกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวร ทุกอย่าง แต่พอกลับมาที่คอนโด เราก็ยังทักอีกว่ามีแมวดำ.. และหนักว่านั้นคือ เราบอกแม่ว่า แมวดำพวกนี้ ตามขึ้นมาเล่นกับเราที่ห้องอีกด้วย.. ตอนนั้น แม่รีบมาพาเราเข้าห้องนอน สวดมนต์ แล้วให้นอนเลยค่ะ.. และคืนนั้น.. อยู่ๆ เราก็ลุกขึ้นมาเล่นคนเดียว ที่ห้องรับแขก เราร้องเสียงเหมียวๆ เหมือนเรียกแมวด้วย.. แม่เราได้ยินเข้า ก็เลยออกมาดู แม่ถามว่าเ

ศาลา 6

รูปภาพ
คืนนั้นญาติๆ ผมจะพากันไปบ้านของน้าชาย แถวๆ คลอง 17 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะวันรุ่งขึ้น จะมีงานทำบุญบ้านน้าชายแต่เช้า ผมอาสาเป็นคนขับรถไปส่งญาติๆ.. ก็เดินทางออกจากบ้านผม ที่เขตหนองจอก ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ได้ เส้นทางที่ผมผ่าน มันจะเป็นเส้นทางลัด ที่ใช้ผ่านไปออกคลอง 17 ได้ ไวกว่าทางปกติครับ เส้นทางนี้ เป็นทางที่ถนนไม่ค่อยจะดี เพราะรถใหญ่ๆ ชอบมาวิ่งเส้นนี้กันเยอะ.. สองข้างทาง ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนา สลับกับบ้านคน ขาไปยังพอมีรถวิ่งสวนอยู่บ้าง แต่กว่าจะไปถึงที่หมาย ก็ห้าทุ่มกว่าแล้วครับ พอส่งญาติเสร็จ ผมก็ต้องกลับกับหลานกันแค่ 2 คน เพราะผม กับหลานแค่มาส่งเท่านั้น.. ขากลับ บนถนนเส้นเดิมแทบไม่มีรถสวนมาเลย ไฟทางตามถนน ยังพอมีติดอยู่บ้าง แต่พอถึงทางแยกที่จะเข้าทางลัด ไฟทางหายไปจากถนนละครับ ผมก็ขับรถเข้ามาทางลัดตามปกติ.. บนถนนเส้นนี้ จะมีศาลาเยอะครับ ศาลาเก่าๆ ที่ไว้ให้คนรอขึ้นรถ ตามชนบทนั่นละครับ หลานผมนั่งรถมันก็ไม่มีอะไรทำ มันเลยนับศาลา ตามข้างทางเล่นๆ ก็นับไป ‘ศาลาที่ 1’ พอขับไปเรื่อยๆ มันก็นับไปเรื่อย ได้ยินทีแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร ไฟทางไม่มี มืดมาก แต่หลานผมตาดีมากครับ ศาลาจ

วิญญาณมาผ่านร่าง

รูปภาพ
แนนมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อปอ ที่บ้านปอเป็นคนเคร่งศาสนา พ่อแม่ของปอเป็นคนทรงทั้งคู่ และปอก็เคยเล่าให้แนนฟังว่า ปอเองก็เคยมีองค์มาลงเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นแนนเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้คิดอะไร ที่แนนจะเล่า เป็นเหตุการณ์ตอนที่ไปเข้าค่ายอาสาเมื่อสมัยมัธยมปลาย โดยตอนนั้น แนน ปอ และเพื่อนๆ ในชั้นเรียนก็ไปกันโดยรถทัวร์ของโรงเรียน มีประมาณเกือบ 40 คน จุดหมายคือจังหวัดอุบลราชธานี ออกเดินทางบ่ายวันศุกร์ กลับเย็นวันอาทิตย์ ค้าง 2 คืนค่ะ ค่ายอาสาครั้งนี้ คือการไปเรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวบ้านท้องถิ่นที่นั่น พอเดินทางไปถึงก็มืดแล้ว ที่พักของเราจะเป็นโรงแรมเล็กๆ ที่อยู่ค่อนข้างลึกเข้าไปจากถนนสายหลัก แนนนอนห้องเดียวกับปอ ซึ่งตอนนั้นเราสองคนยังไม่ได้สนิทกันมาก เพราะปอเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนอื่นได้ไม่นาน.. หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ ก็ปิดไฟเข้านอนเลย โดยเปิดไฟห้องน้ำ และแง้มประตูไว้นิดหน่อยให้พอมีแสงสว่าง กลางดึกคืนนั้น แนนตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนพูดอะไรพึมพำอยู่ใกล้ๆ แนนตกใจมาก เลยหันไปที่ปอ แนนเห็นปอนอนหลับตา แต่ปากขมุบขมิบพูดอะไรพึมพำ และน้ำเสียงที่ได้ย

วันคลอดลูก

รูปภาพ
 เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ฉันตั้งครรภ์ และกำลังจะไปคลอดที่โรงพยาบาล แต่หาคนเฝ้าไข้ไม่ได้เลย ที่บ้านไม่มีใคร สามีก็ต้องทำงาน ต้องดูแลลูกคนโตด้วย มาเฝ้าไม่ได้ บ้านเราเป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่ได้อยู่ใกล้ญาติพี่น้อง ฉันเลยตัดสินใจให้แฟนไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเพียงลำพัง หมอนัดผ่าคลอดตอนเช้า 9 โมง แต่กลางดึกคืนนั้น ถุงน้ำคร่ำฉันแตกก่อนเวลา พยาบาลเลยจำเป็นต้องแจ้งคุณหมอ และเตรียมห้องผ่าตัดทันที.. ตอนนั้นเป็นเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ ฉันทั้งกลัว และเศร้าที่ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเวลาคลอดเลย การคลอดผ่านไปด้วยดี ฉันคลอดลูกชายตอนตี 2 กว่าๆ ด้วยฤทธิ์ยาสลบ ทำให้ฉันฟื้นอีกทีในตอนสายๆ เลยค่ะ ฉันตื่นมาเจอหน้าแฟน ลูกคนโต และแม่.. แม่ที่ฉันไม่ได้เจอมานานหลายปี ตั้งแต่แม่เลิกกับพ่อ แล้วย้ายตัวเองไปอยู่ต่างจังหวัด.. ฉันถามแม่ว่า  ‘แม่มาได้ยังไง? ใครบอกแม่?’  เพราะฉันไม่ได้ติดต่อกับแม่เลย เลยงงว่าแม่รู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง แล้วแม่รู้ได้ยังไงว่าฉันมาคลอดที่โรงพยาบาลนี้ วันนี้? แม่ทำหน้าตาเลิกลั่กเล็กน้อย ก่อนจะมากระซิบตอบเบาๆ ว่า  ‘ก็พ่อมึงน่ะสิ ไปตามแม่ ไปยืนตะโกนเรียกแม่หน้าบ้านว่า ให้มาดูลูกหน่อย มันคลอดลูกไ

ก่อนจะถึงคืนวันพระ

รูปภาพ
 ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุประมาณ 19 ปี เพื่อนเห็นว่าเราชอบทำบุญทำทาน เลยชวนไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เราก็ตกลงไปเพราะว่างพอดี วัดนั้นเป็นวัดชื่อดังมากสำหรับสายปฏิบัติธรรม เพราะเงียบสงบเนื่องจากตัววัดตั้งอยู่กลางเขา มีหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวเขาอยู่ใกล้ๆ พอให้พระบิณฑบาตรได้อยู่ 2-3 หมู่บ้าน คอร์สปฏิบัติธรรมที่เราเข้าร่วม เป็นคอร์สระยะสั้นเวลา 7 วัน ปิดวาจา ถือศีล 8 กินมังสวิรัติ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และห้ามอ่านหนังสืออื่น นอกเหนือจากหนังสือหลักปฏิบัติที่ทางวัดแจกให้เพียงเล่มเดียว ซึ่งหนามาก นอกจากเรากับเพื่อนอีกคนที่มาด้วย คนอื่นๆ ก็เป็นผู้ใหญ่หมด บางคนบินมาจากต่างประเทศเพื่อมาปฏิบัติธรรมที่นี่โดยเฉพาะ ด้วยความที่เราเป็นวัยรุ่น ทำให้การปฏิบัติธรรมแบบนี้เป็นอุปสรรคต่อจิตใจ และร่างกายมากกกก นั่งสมาธิ และเดินจงกรมเฉลี่ยวันละ 17 ชั่วโมง ที่เหลือคือเวลากินข้าว 2 มื้อ กับเวลาอาบน้ำ และนอน ซึ่งมันเหนื่อยมากกกกกกก ผ่านไป 2 วัน เหมือนร่างกาย และจิตใจเราก็ยังปรับไม่ได้ ฟุ้งซ่าน เจ็บปวด ทรมานสังขารเหลือเกิน ดังนั้นช่วงเวลาแห่งความสุขเพียงช่วงเดียว คือเวลานอน ปกติคือ 5 ทุ

ซ่อนหา ซ่อนหาย

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ตอนนั้นอายุประมาณ 9 ขวบได้ ผมจะเล่าจากในความทรงจำของผม บวกกับสิ่งที่พ่อแม่เล่าให้ผมฟัง เพราะมันเป็นเหตุการณ์ ที่ไม่มีใครลืมจนทุกวันนี้ครับ ครอบครัวของผม เป็นคนจังหวัดจันทบุรีครับ พ่อแม่ก็จะพาผมไปวัดเป็นประจำ ไม่ว่าจะมีงานวัด หรืองานบุญ.. และวันที่เกิดเรื่องก็คือ วันที่ไปงานสรงน้ำพระประจำปี ที่วัดก็จะมีเด็กๆ ลูกๆ ของชาวบ้านแถบนั้นมาเล่นกันเยอะแยะ ด้วยความเป็นเด็ก ผมก็แยกจากพ่อแม่ ไปเล่นกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่หลังวัด เพื่อนกลุ่มนี้กำลังจะเล่นซ่อนแอบกันอยู่พอดี โดยที่มีกันประมาณ 8 คน รวมผมด้วย ก็โอน้อยออกกัน และผมก็เป็น 1 ใน 7 คนที่ต้องไปซ่อน เพื่อนที่เป็นฝ่ายหา ก็หลับตาที่ต้นไม้นับไป ส่วนผม และเพื่อนที่เหลือ ก็วิ่งหาที่ซ่อนกันในวัด ผมวิ่งแยกไปไกลกว่าใคร จนไปเจอเด็กผู้หญิงในกลุ่ม ที่วิ่งไปซ่อนในบ่ออิฐ ลักษณะคล้ายบ่อน้ำ แต่ไม่ลึก ผมก็เลยลงไปด้วย และก็ปิดฝาด้านบนไว้.. ก็ยังหัวเราะกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ว่าคงไม่มีทางหาเจอ ผมชวนคุยไปเรื่อย ก็เลยรู้ว่าเด็กคนนั้นชื่อทับทิม.. ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมเผลอหลับไปแค่ไม่นาน พอตื่นขึ้นมาอีกที ในนี้มืดสนิทเลย ผมก็พู

ปอกแอปเปิ้ลที่หน้ากระจก

รูปภาพ
 เมื่อสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เราก็ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ดูดี แต่เราก็ยังไม่เคยมีแฟนเลย อาจจะเป็นเพราะเราช่างเลือกก็ได้ในตอนนั้น วันนึงเราไปห้องสมุดกับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อนเราคนหนึ่ง ก็ไปอ่านเจอเรื่องของความเชื่อแปลกๆ ที่ว่า ถ้าจุดเทียน และปอกเปลือกแอปเปิ้ลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน จะเห็นเนื้อคู่ในกระจก โดยที่จะต้องปอกเปลือกแอปเปิ้ลไม่ให้ขาดเลยในครั้งเดียว.. ฟังแล้วทุกคนก็หัวเราะ และก็บอกให้เราลองกลับไปทำดู เผื่อจะได้รู้ว่าแฟนจะหน้าตาเป็นยังไง ในใจเราก็ไม่ค่อยเชื่ออะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่คืนนั้นเราก็ลองทำเล่นๆ ดู โดยที่จุดเทียนหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และเตรียมมีดมาปอกเปลือกแอปเปิ้ล พอนาฬิกาเป็นเวลาเที่ยงคืนเราก็เริ่มปอกเปลือก ซึ่งเราเป็นคนปอกเปลือกแอปเปิ้ลได้อยู่แล้ว มันก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเรา ที่จะปอกเปลือกออกทั้งหมดไม่ให้ขาด เมื่อเราปอกเปลือกเสร็จ เราก็เงยหน้ามองที่กระจก แต่สิ่งที่เห็นก็คือหน้าตัวเอง ไม่ได้มีอะไร ซึ่งเราก็คิดในใจว่า ก็มันเป็นแค่ความเชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไง แล้วเราก็เข้านอน วันต่อมาเราตื่นขึ้นมา เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย ตอนอาบน้ำ เราก็สังเกตุเห็นที่ต้นแข

เป็นเพราะปาก

รูปภาพ
สวัสดีค่ะ อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตัวเองค่ะ ตอนสมัยเราเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ช่วงเพิ่งเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 เราได้ข่าวมาว่า ตอนปิดเทอมมีเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้น ตามที่เราได้ยินมา คือมีรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบไป เหมือนจะอกหักจากแฟนแล้วเสียใจมาก เขามาผูกคอตายที่โรงเรียนค่ะ.. ช่วงพักกลางวัน เรากับเพื่อนๆ ในกลุ่มก็ไปจับกลุ่มนั่งเม้าท์มอยกันตามปกติ เพราะไม่ได้เจอกันนาน ศาลายาวเป็นที่ประจำของพวกเราค่ะ คือตึกที่เราอยู่เป็นตึกของนักเรียนชั้น ม.3 และข้างๆ ตึกจะมีศาลายาว เรากับเพื่อนๆ นั่งอยู่ติดเสาศาลาเลย แล้วเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็เปิดประเด็นเรื่องพี่ที่ผูกคอตายขึ้นมา เราก็ถามมันว่า  ‘แล้วรู้ป่าววะ ว่าพี่เขาผูกคอที่ไหน?’  มันก็บอก  ‘มึงลองเงยหน้าดูดิ..’  เราก็เงยหน้ามอง แวบแรกแอบตกใจเลย เพราะมันมีขื่อเสาของศาลาอยู่ตรงกับที่ที่เรานั่งอยู่พอดีเลย.. จากนั้นเราก็ไปถามครูที่รู้ข่าว ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ ตรงนั้นจริงๆ ก็เริ่มเห็นขวดน้ำแดงมาวางบ้างอะไรบ้าง แต่ครูก็บอกว่า ที่ตรงนั้นยังนั่งได้เหมือนเดิมนะ ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกลัวอะไรประมาณนี้ค่ะ แล้วทีนี้วันห

กว่าจะหากันเจอ

รูปภาพ
ชาย และ อิม เพิ่งคบกัน ทั้งคู่กำลังจะเข้าปี 1 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต ชายตัดสินใจออกจากบ้านมาเช่าหอพักติดกับมหาวิทยาลัย ทั้งที่บ้านชายก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนัก เพื่อจะได้อยู่กับอิมที่ย้ายมาจากเชียงใหม่ ชายเป็นคนที่หวงอิมมาก แต่อิมก็ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีเช่นกัน และถึงแม้จะเรียนคนละคณะกัน แต่ทุกวันหลังเลิกเรียน ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่หอพัก.. ทุกๆ คืนอิมจะบอกรักชาย และพูดกับชายเสมอว่า อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกวันนะ.. เช้าวันหนึ่งกลางเทอม 2 ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ ทำให้อิมไม่สบาย ชายออกไปซื้อยาให้อิมแต่ชายก็ไม่กลับมาอีกเลย เสียงโทรศัพท์อิมดังขึ้น เป็นเบอร์ชายโทรเข้า แต่เสียงนั้นกลับเป็นคนอื่น และบอกกับอิมว่า น้องผู้ชายคนนี้ถูกรถชนตายแล้ว.. ทุกอย่างกระทันหันมาก อิมได้แต่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน.. หลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งนั้น อิมก็ได้ย้ายห้องไปอยู่ห้องอื่น 1 เดือนผ่านไป อิมเริ่มรู้สึกว่าทุกครั้งที่กลับมาอยู่คนเดียวในห้อง จะรู้สึกเหมือนมีคนเรียกชื่อ คล้ายหูแว่วตลอดเวลา จนคืนหนึ่ง อิมเปิดทีวี และเผลอหลับไป พอรู้สึกตัวกลางดึกเพราะทีวีซ่าเนื่องจากหมดผังรายการ อิมจึงลุกขึ้นมาหยิบรีโมท

ไอ้ผีหื่น

รูปภาพ
  เมื่อหลายปีก่อนสมัยเราอายุ 24 เรารับงานพริตตี้ค่ะ ก็ต้องเดินทางบ่อยๆ ขึ้นเหนือลงใต้บ้างเป็นปกติ ตอนไปพักโรงแรม เคยเจอเสียงแปลกๆ เงาแวบๆ บ้าง ก็ไม่ได้อะไร เพราะชินแล้ว แต่เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนี้คือเรื่องที่แปลกที่สุดที่เคยเจอมาค่ะ เรารับงานพริตตี้ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ก็ไปกันหลายคนค่ะ ได้พักที่โรงแรมเล็กๆ ใกล้กับสถานที่จัดงาน ตอนไปถึงก็เย็นแล้ว หลังจากทานข้าวกันเสร็จ เราก็ขอแยกตัวเข้าห้องเลยเพราะเหนื่อยจากการเดินทางทั้งวันแล้ว (คนอื่นๆ ยังไปเที่ยวกันต่อ) เราอาบน้ำเสร็จก็โทรคุยกับแฟนจนถึงราวๆ สี่ทุ่ม ก็ปิดไฟเข้านอนค่ะ.. นอนหลับไปได้นานเท่าไรไม่รู้ อยู่ๆ เราก็รู้สึกเหมือนถูกผีอำ ซึ่งปกติเราก็เคยถูกผีอำอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งค่ะ ตัวเราขยับไม่ได้ เราลืมตาได้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะปิดไฟห้องมืดสนิท จากนั้นเราก็เริ่มรู้สึกเตียงที่ยวบลงค่ะ พร้อมกับมีมือ มือแบบมือใหญ่ๆ สองมือมาจับที่เอวของเรา ก่อนจะค่อยๆ ลูบขึ้นมาทีละนิดๆ จนมาขยำหน้าอกเรา แต่สัมผัสคือผิวชนผิวเลยนะ ทั้งๆ ที่เราใส่เสื้ออยู่ ตอนนั้นคือเราตกใจมากกกกก ไม่ได้ฝันไปแน่ๆ คิดในใจ แม่งใครงัดห้องเข้าหรือเปล่า?

“ห้อง407” โรงแรมหลอนแถวพัทยา

รูปภาพ
เริ่มเรื่องเลยนะคะ…ช่วงเดือนตุลาคม เราต้องเข้าฟังการการประชุมวิชาการ เครือข่ายวิศวกรรมเครื่องกลแห่งประเทศไทยวันที่ 16-18 ตุลาคม 2556 แต่ไม่ได้นำเสนอบทความนะคะ ไปเอาข้อมูลการทำงานวิจัยค่ะ และงานนี้ จัดขึ้นที่โรงแรมดุสิตธานีพัทยา (อันนี้ขอเอ่ยชื่อนะคะ เพราะไม่ใช่โรงแรมที่เกิดเหตุ) ตอนแรกดีใจมาก…ว่าภาควิชาต้องพาไปพักโรงแรมนี้ แต่แล้วก็ต้องสิ้นหวัง เมื่อเราต้องไปพักโรงแรมอื่นที่อยู่ใกล้ๆ พวกเราทั้ง 24 คนพร้อมเดินทางไปพัทยา ด้วยรถตู้แต่แยก 2คันค่ะ 13คนแรกไปคันที่หนึ่ง ส่วนเรานั่งคันที่สองกับสมาชิกอีก 10 ท่าน เดินทางถึงโรงแรมประมาณ 4ทุ่มค่ะ ตอนเข้ามาข้างในเราก็ยกมือไหว้ศาลพระภูมิ หน้าโรงแรมเพื่อขอให้ท่านดูแลปกปักรักษาและในช่วงนั้นประเทศไทยเรามีพายุเข้า ฝนตก ฟ้าผ่า ไฟดับ บิวท์มากอ่ะบรรยากาศ โรงแรมเข้าไปจากซอยถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลกว่าๆค่ะ ลักษณะโรงแรมเป็นตึกคล้ายๆอพาร์ทเม้นท์ มีสระว่ายน้ำข้างหลัง ลิฟท์ที่ขึ้นไปก็แคบๆ เข้าได้ไม่เกิน 4คนค่ะ เมื่อถึงชั้น 4 สิ่งที่พบเห็นระหว่างทางคือ น้ำฝนที่สาดเข้ามา เจิ่งนองไปหมด ไฟกระพริบๆ ตกๆ ดับๆ โอ้โห้…บิวท์เข้าไปอีก เราได้พักกับพี่ผู้หญิงคน

เจอผีเพราะชุดครุย

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว… ลูกพี่ของเราหรืออิเจ้าของลอกอินสุดเกรียน เขาจะเข้ารับปริญญาค่ะ ตัวเขาไปเช่าชุดครุยจากร้านๆนึงมา เช่าอย่างเดียว ไม่ใช่เช่าตัด เพราะฉะนั้น มันอาจเป็นมือ 2 ยันมือ 10 เพราะสถาบันนี้ ไม่เคยเปลี่ยนรูปแบบชุดครุยมานานแล้ว… วันซ้อมเขาจะต้องไปซ้อมที่สถาบัน เราไปด้วยเพราะต้องการไปช่วยเขาถือของ เหตุการณ์ก็ปกติดี ไม่มีอะไร… ตอนเย็นๆ ยังแอบย่องหลบพี่ยามขึ้นไปดูศาลในห้องน้ำหญิงกันเลยจ้าาา 555 สรุปไม่เจออะไร แต่บรรยากาศหลอนสุดๆ จนกระทั่งขากลับ ขากลับ พี่เขาแขวนชุดครุยไว้ตรงที่เกี่ยวตรงเบาะหลัง ชุดครุยก็จะห้อยอยู่ด้านหลังเบาะ ของเขาพอดี (นึกภาพตามนะคะ) ส่วนตัวเรา นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ก็นั่งไป เม้าท์กันไป “หล่อน หยิบน้ำให้หน่อย หิวน้ำ” เราก็หันหลัง เอี้ยวตัวจะไปหยิบขวดน้ำดื่มที่กองไว้ที่พื้น แต่จังหวะนั้น… ก่อนที่เราจะเอื้อมมือไปหยิบ ขวดน้ำ ชุดครุยเปล่าๆ ที่ไม่ควรจะมีอะไร เรากลับเห็นใบหน้าผู้หญิงคนนึง อยู่ในช่องว่างระหว่างชุดครุยตรงกลางอก!!! ใบหน้าดำคล้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตาสีแดงก่ำ ปากมีเลือดเปรอะเต็มปาก มีแต่หน้า ไม่มีตัว!! มองเราด้วยสายตาแบ

ผู้ชายในฝัน

รูปภาพ
 เรื่องมีอยู่ว่า.. สมัยอายุ 17 ปี เราทำงานด้านเอกสาร และพักอาศัยอยู่กับพี่สาวค่ะ อยู่ด้วยกัน 2 ปีได้แล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งเราชอบนอนฝันว่ามีผู้ชายหน้าตาดีมาหา มาพาเราไปเที่ยว ไปกินอาหารดีๆ ในความฝันเรามีความสุขมากๆ เราเห็นหน้าตาเขาชัดเจน ทุกวันนี้ยังจำได้ดีเลยค่ะ เราฝันแบบเดิมๆ อยู่หลายคืน รวมช่วงเวลาราว 5-6 เดือนได้ ทุกครั้งที่ฝัน เราจะได้ไปในที่เดิมๆ และทุกครั้งก่อนที่เราจะตื่น ผู้ชายคนนี้จะถามเราว่า ‘อยากไปอยู่กับผมไหม?’ หรือ ‘ไปอยู่ด้วยกันไหม?’ แต่เราก็ไม่เคยตอบเขาเลย จะสะดุ้งตัวตื่นทุกครั้งที่เขาถาม.. เราลองไปเล่าให้พี่สาวฟัง พี่สาวก็บอกว่าอย่าไปตอบตกลงนะ ถ้าไปตกลงเราจะตาย เราก็อึ้งๆ แต่ก็เชื่อพี่สาว แล้วคืนนั้นเราก็ฝันอีกค่ะ ในฝันเหมือนเดิมทุกอย่าง จนมาหยุดที่เขาถามเราว่า ‘ไปอยู่ด้วยกันไหม?’ ตอนแรกเราไม่ตอบเพราะรู้สึกตัวว่าจะตื่น แต่คราวนี้เรากลับไม่ตื่น ยังคงอยู่ในฝัน! เราก็เลยบอกเขาไปว่า ‘เราไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่กับพี่สาวเรา’ แล้วก็ไล่เขาไป เขาโกรธเรามาก ตาแดงก่ำ เอามือมาจับแขนเราทั้ง 2 ข้างแน่น บีบแขนเราอย่างแรง จนเรารู้สึกเจ็บ แต่เราก็ไม่ตื่น เราสู้กับเขา เขาพยายามจะดึง

ใต้ถุนบ้าน

รูปภาพ
เรื่องมีอยู่ว่า.. ครั้งหนึ่งสมัยเรายังเป็นเด็กประถม ช่วงปิดเทอมพ่อจะพาเราไปทิ้งไว้ที่บ้านแม่ที่ต่างอำเภอ (พ่อกับแม่เราแยกกันอยู่) ถนนฝั่งตรงข้ามบ้านแม่ จะมีคลองขนาดยาว และสวนยางปกคลุมทั่ว ก่อนหน้าที่เราจะไปที่นั่น น้าชายออกไปกรีดยางตอนตี 2 แกได้ยินเสียงเหมือนมีตัวอะไรตะกุยน้ำอยู่ริมคลอง แกเลยเดินไปดู แกบอกเห็นเป็นดวงไฟดวงใหญ่ขนาดเท่าชามข้าว มีหน้าตา จมูก ปากครบ กำลังกัดกินปลา และเขียดเป็นๆ อยู่ริมคลอง พอแกเห็นก็ตกใจวิ่งหนีกลับบ้าน แต่ดวงไฟหน้าคนนั้นมันก็ลอยไล่ตามหลังมา พอพ้นสวนยางมันถึงเลิกไล่ จากนั้นแกไม่กล้าไปกรีดยางอีกหลายวันเลย จนเรามาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน คืนหนึ่ง แม่กับน้าชายออกไปกรีดยาง ออกไปประมาณ 4 ทุ่ม เรากับน้องยังไม่นอน นั่งเล่นกันอยู่ในบ้าน ลักษณะบ้านแม่จะเป็นบ้านไม้ยกสูง มีชานบ้านยื่นออกไป และมีบันไดลงไปอีก พอแม่กับน้าชายลงจากบ้านเข้าสวนยางไป สักพัก เรากำลังจะไปปิดประตูบ้าน ก็เห็นมีผู้หญิงลักษณะคล้ายแม่เราเดินออกมาจากใต้ถุนบ้าน เราไม่ได้คิดไปถึงอะไรเลยนอกจากแม่ คิดว่าแม่กลับมาเลยดีใจร้องเย้ๆ เอื้อมมือไปหาแม่ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่เดินขึ้นบันไดมาหาเรา แต่เค้ายื่นม

สยองที่หลังโรงปูน

รูปภาพ
 เรื่องนี้เกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ ช่วงนั้นเราได้ย้ายไปอยู่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปช่วยป้าขายของที่โรงปูน ใครเป็นคนทุ่งสงจะรู้เลยว่าหลังโรงปูนจะเป็นรางรถไฟ ซึ่งตอนกลางคืนจะมืดมาก ส่วนหน้าโรงปูนคือถนนใหญ่ ป้าเราเปิดร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และพวกบุหรี่อยู่ในโรงปูน ขายให้กับคนรถ เปิดขาย 24 ชั่วโมงเลยค่ะ เราจะขายช่วง 6 โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ช่วงเวลา 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มคนรถจะเยอะมาก แต่พอหลังจาก 4 ทุ่มไปแล้วคนจะน้อย ก็เลยจะปิดไฟนอนกันตรงหน้าร้าน ขณะที่เรานั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาขอน้ำร้อน แล้วก็ถามเราว่า ‘เอ้า นี่ลูกน้องเจ้เหรอ?’ (เจ้นี่หมายถึงป้าเรา) เราก็บอก ‘ใช่ค่ะ..’ แกเลยถามว่าเพิ่งมาอยู่ใหม่สินะ แล้วเจ้ให้ไปพักที่ไหนล่ะ?’ เราบอกว่า ‘อ่อ..ก็นอนที่บ้านเจ้นั่นล่ะค่ะ’ แล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นก็ถามเราแบบโจ่งแจ้งมากว่า ‘..แล้วกลัวผีไหมล่ะ?’ เราก็ตอบไปอย่างงงๆ ว่า ‘กลัวค่ะ..’ แกก็พูดต่อว่า ‘ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ยากหน่อยนะ..’ ไม่รู้ทำไม จังหวะนั้นคือเราขนลุกวาบแบบไม่มีคำบรรยายเลย แล้วแกก็เดินไป.. จากนั้นมา เราก็อยู่ขายของตามปกติโดยที่ไม่ได้เจออะไร พี่ผู้หญิงคนน

บ้านผีแขก

รูปภาพ
สมัยผมหนุ่มๆ รุ่นน้องชอบชวนไปดูบ้านผี ผมก็ไปกับเค้า มีอยู่ครั้งหนึ่ง น้องมันชวนไปบ้านร้างอิสลาม มันบอกว่าที่นี่น่ากลัวมาก มีเหตุฆ่ากันแล้วเอาศพทั้งบ้านไปหมกไว้ในห้องน้ำ จากนั้นมาก็เฮี้ยนสุดๆ คนระแวกนั้นอยู่กันไม่ได้ ย้ายกันออกไปหมด มันเกริ่นมาแบบนี้ครับ คืนนั้นไปกันทั้งหมด 5 คน เอารถกระบะไป น้องกับแฟนเค้านั่งหน้า ส่วนผมกับน้องผู้ชายอีก 2 คนนั่งกระบะหลัง พอไปถึงทางเข้าหมู่บ้านมันจะมีถนนยาวๆ เข้าไป มีป้ายชื่อหมู่บ้านอยู่แต่ถูกถอดออกไปแล้ว พอรถแล่นเข้าไป ได้ยินเสียงสวดภาษาอิสลามดังขึ้นมาเลยครับ ผมกับน้อง 2 คนข้างหลังก็มองหน้ากันทันทีเหมือนรู้กัน แสดงว่าได้ยินเหมือนกันหมด ก็ยังสงสัยว่าแถวนี้มีสุเหร่าเหรอ? แล้วเค้าเปิดบทสวดกันดึกๆ อย่างนี้เหรอ? ได้แต่คิด ไม่ได้พูดออกมา เก็บความสงสัยเอาไว้ พอรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ก็ดับเครื่องลงจากรถกัน ผมเดินมายืนสูบบุหรี่กับน้องอีก 2 คน คุยกันไปเรื่อย มองไปที่ปากทางที่เราเข้ามา สักพัก น้องมันก็สะกิดผม ‘พี่ๆ ดูอะไรนั่นดิ..’ ผมก็มองไปตามที่น้องมันชี้ ปรากฏว่ามันเป็นเงาครับ เงาดำๆ ใหญ่ๆ คล้ายหมาตัวโตๆ เหมือนหมาฝรั่งอะไรแบบนั้น ไอ้เงานั่นมันวิ่ง

แม่มด 4 G

รูปภาพ
 ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งทางเฟสบุ๊คเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เธอเป็นผู้หญิงหมวยๆ ขาวๆ คนหนึ่ง ดูปกติธรรมดาทั่วไป แรกๆ เธอก็เข้ามาไลค์ผมบ้าง คอมเม้นท์บ้างตามปกติ หลังๆ เธอก็เริ่มชวนผมคุยเรื่องส่วนตัว ผมก็คุยไปตามปกติไม่ได้คิดอะไร คุยกันอยู่นานเกือบปี อยู่ๆ วันหนึ่งเธอก็มาถามผมว่า ผมเป็นคนมีเซ้นส์ใช่ไหม? ผมก็เริ่มแปลกใจว่าเธอรู้ได้ยังไง? ก็คิดว่าเธอคงอ่านพวกโพสต์ของผมแน่ๆ ว่าผมมีสัมผัสที่ 6 อะไรแบบนี้ พอต่อมาเธอก็เริ่มพูดในสิ่งที่ผมรู้ พูดถูกในหลายๆ เรื่อง ทั้งที่ผมไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ผมเลยชักสงสัย ถามเธอไปว่า ‘เธอรู้เรื่องอะไรพวกนี้ได้ยังไง?’ เธอเลยยอมบอกว่า เธอเป็นหมอดูไพ่ยิปซี มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็กเรื่องการทำนาย ครอบครัวของเธอพ่อแม่แยกทางกัน เลยต้องอยู่กับพี่สาว พี่สาวก็จน เธอต้องดูไพ่ยิปซีหาเงินเรียนเองตั้งแต่อายุยังน้อย ผมได้ฟังก็รู้สึกทึ่ง และสงสารในชีวิตเธอ หลังจากนั้นผมก็คุยกับเธอมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ เธอจะชอบทักมาคุยมากกว่า ผมไม่ค่อยคุยหรอก แล้วเวลาที่ทักมา มันมักจะต้องมีเหตุการณ์ตามแบบที่เธอทักมาเสมอ เช่นเธอเคยทักมาว่า ‘เฮีย เฮียจะมีเคราะห์นะ ระวังจะเสียเงิน..’ ไม่กี่วันต่อมา ลูกห