บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2019

1ห้อง2 ศพ

รูปภาพ
ผมเข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ได้สักระยะนึง ก็อาศัยอยู่กับเพื่อนที่เป็นวิศวกรอีกคน แต่ว่ามันไกลจากที่ทำงานของผม ผมก็เลยไปหาหอพักแห่งใหม่อยู่คนเดียว ใกล้ที่ทำงานเข้าไปอีกหน่อย จนมาเจอหอพักแห่งหนึ่ง ที่ด้านล่าง เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และด้านบนเปิดเป็นหอพักครับ สภาพห้องพอใช้ได้ มีอุปกรณ์ครบ ตอนแรกผมอยู่ชั้น 3 ซึ่งจะไม่มีระเบียงครับ อยู่ไปได้ประมาณ 1 ปี ก็ขอย้ายไปอยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องใหญ่ และโล่ง ตอนแรกที่ย้ายขึ้นมาชั้น 4 ห้องอื่นๆ ก็มีคนอยู่เยอะนะ แต่ก็มีย้ายเข้า ย้ายออก ตามประสาหอพักครับ จนผมอยู่มาได้ประมาณ 2 ปี ที่ชั้น 4 นี้ เหลือเพียงห้องผม กับห้องตรงข้าม ที่เป็นพี่ผู้หญิงหน้าตาดี เธอกำลังตั้งท้องด้วยครับ อยู่กับแฟนชาวต่างชาติ หน้าตาออกแขกๆ หน่อย.. คนเช่าที่ย้ายออกไปช่วงหลังๆ นี่ ส่วนมากจะมีปัญหา กับเจ๊เจ้าของหอครับ เพราะเจ๊แกจะขี้เหหนียวมาก อย่างไฟตรงบันได ตอนกลางคืน เจ๊แกจะปิดหมดเลย มืดมากๆ และอันตรายมากครับ ผมสังเกตุเห็นพี่ผู้หญิงห้องตรงข้าม เธออยู่คนเดียวบ่อยๆ เพราะแฟนเธอต้องไปๆ มาๆ ผมก็ไปเคาะห้องเธอ บอกว่าถ้าจะซื้ออะไร มาเคาะบอกผมได้ตลอด หรือเวลาผมจะลงไปข้างล่าง ก็จะเคาะ

เรื่องสยองตึก Q

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ของแอดมินเองครับ.. ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมเรียนคณะนิเทศศิลป์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวหัวหมาก ช่วงนั้นก็เรียนๆ เล่นๆ กับเพื่อนไปตามภาษาวัยรุ่น คณะนิเทศนี้จะมีตึกประจำของตัวเอง คือ ‘ตึก Q’ ซึ่งจะอยู่ด้านหลังสุด ของตัวมหาวิทยาลัย ด้านหลังตึก Q ไปจะเป็นลานจอดรถ ของนักศึกษา และอาจารย์ และด้านข้างรั้วของตรงตึก Q นี้ จะติดกับสระว่ายน้ำของหมู่บ้าน เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แต่มีหลังคากระเบื้องแบบโปร่ง ช่วงปี 1 คณะผมก็จะมีวิชา Drawing (วาดภาพเหมือนด้วยดินสอ) จะใช้พื้นที่ตรง Studio ชั้น 1 ใต้ตึก E ซึ่งจะอยู่หน้าทางขึ้นตึก Q เลย วิชานี้ จะเรียนตั้งแต่ประมาณ 13:00 ถึง 18:00 ของทุกวันอังคาร.. จนมีวันนึง ในช่วงที่กำลังเรียน Drawing นี้อยู่ จู่ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงดัง ‘ตึงงง..’ เสียงดังมาก ดังมาจากข้างนอก ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็นั่งวาดรูปกันต่อ จนสักพัก มีรุ่นพี่คนนึงวิ่งหน้าตื่นเข้ามา บอกว่า ‘มีคนโดดตึก!’ ซึ่งจากที่ผมฟังมา เป็นผู้หญิงชั้นปี 4 กระโดดลงมาจากหน้าต่างด้านหน้า ชั้น 10 ของตึก Q โดย ตกลงมาอยู่ที่ คานปูนเหนือบันไดทางขึ้นตึก

ต้องเลือก

รูปภาพ
 เรื่องราวนี้บอกเล่าจากรุ่นน้องของผมที่ชื่อว่า แจ็ค แต่เป็นเรื่องที่แฟนสาวของมันที่ชื่อว่า เอิง เล่าให้ฟังอีกที ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนั้นเอิงอายุได้ 17 ปี หลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เธอตัดสินใจเข้ามาเรียนในตัวจังหวัด ซึ่งเอิงเลือกที่จะเรียนวิทยาลัยครู วิชาเอกนาฏศิลป์ด้วย ระยะทางจากบ้านไปวิทยาลัยราวๆ 15 กิโลเมตร ช่วงแรกก็ขึ้นรถประจำทางไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเธอสงสารจึงไปออกรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมสีขาวให้ เพื่อที่จะขี่ไปกลับ แล้วเอิงเป็นคนที่ไม่เคยกลับบ้านดึกเลย เต็มที่คือทุ่มครึ่งก็ต้องถึงบ้านแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องน่ากลัวสำหรับเธอขึ้น หลังจากเอิงเรียนเสร็จแล้วประมาณบ่าย 3 โมง เพื่อนๆ ได้ชวนเธอไปกินสุกี้หม้อรวมที่บ้าน ตอนแรกก็คิดจะปฏิเสธ แต่ทนเพื่อนๆ รบเร้าไม่ไหว เธอบอกว่าได้ แต่อย่าดึกนะ เดี๋ยวกลับดึกพ่อแม่จะเป็นห่วง จนเวลาล่วงเลยไป.. ดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว เพื่อนก็ชวนให้เอิงนอนค้างที่บ้านเลย แต่เอิงบอกว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ที่บ้านจะไปวัดแต่เช้า ยังไงก็คงต้องกลับบ้าน เอิงขี่รถออกจากบ้านเพื่อนมาตามทางเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็ปวดท้องเลยมองหาปั

ร้านสะดวกซื้อ

รูปภาพ
 เป็นเรื่องที่เราได้ฟังมาจากพี่ที่ทำงานมาอีกที พี่คนนี้ชื่อพี่กอ (นามสมมติ) พี่กอเล่าว่า สมัยเรียนแกเรียนแบบทวิภาคีในสถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ก็จะเรียนไปด้วยทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย พี่กอได้งานที่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำกะกลางคืน เพื่อที่ออกกะเช้า แล้วพอสายๆ จะได้ไปเรียนต่อเลย จนแกได้ย้ายไปช่วยสาขาเปิดใหม่ชั่วคราว สาขาใหม่นี้ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับแยก 100 ศพ คนท้องถิ่นเรียกแบบนั้น เพราะแยกนี้เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีคนเสียชีวิตเยอะมากๆ เดือนเว้นเดือนเลยก็ว่าได้ พี่กอย้ายไปทำงานที่สาขาใหม่วันแรก ด้วยความที่เป็นกะดึก พนักงานจะไม่เยอะ อยู่กัน 3 คนเท่านั้น ยิ่งดึกร้านก็ยิ่งเงียบ อาจจะด้วยปั๊มเปิดใหม่ คนเลยยังไม่คุ้นชิน.. ช่วงราวเกือบๆ ตี 3 น้องพนักงานหญิงคนหนึ่งขอพักไปเข้าห้องน้ำ พี่กออยู่หน้าแคชเชียร์กับน้องผู้หญิงอีกคน ตอนนั้นเอง อยู่ดีๆ ประตูเลื่อนหน้าร้านก็ดัง  ‘ติ๊งต่อง..’  และเลื่อนเปิด-ปิด ทั้งที่ไม่มีคน พี่กอกับน้องอีกคนมองหน้ากัน ผ่านไปสักพักก็ดังอีก  ‘ติ๊งต่อง..’  แล้วเลื่อนเปิด-ปิด ลักษณะเหมือนมีใครเข้ามาเดินดูของแล้วเดินออกไป.. แกคิดว่า

เจอดีที่บ้านแฟน

รูปภาพ
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนมีเซ้นส์เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เวลาไปไหนมาไหนต่างที่ก็มักจะเจอตลอด เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เราได้ไปนอนค้างบ้านแฟนค่ะ เป็นการไปค้างคืนครั้งแรกเลย ก่อนที่จะเข้านอนก็ปาร์ตี้กินเหล้ากันปกติ แล้วสักประมาณตี 2 กว่าๆ ก็แยกย้ายกันเข้าห้องไป เราก็นอนในห้องกับแฟนเรากับน้องสาวแฟน นอนไปสักพักก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรเดินบนหัวเตียง เดินไปเดินมาอยู่นั่นล่ะ เราก็พยายามจะข่มตาหลับนะ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปทำงาน แต่มันก็นอนไม่หลับ จนเราต้องตื่นมาสวดมนต์แผ่เมตตา ไอ้แฟนเราก็รู้แล้วล่ะว่าเราคงเจออะไรแน่ๆ เค้าก็พยายามกล่อมให้เราหลับ เราก็พยายามหลับตา แต่ในขณะที่เราหลับตาเสียงเดินนั้นก็ยังไม่หายไป.. จนราวๆ ตี 3 ได้ เสียงนั้นถึงจะหยุดไป เราก็เลยลืมตา เท่านั้นล่ะ เจอจังๆ เลยจ้า!!! มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เตียงฝั่งเรา ภาพนี่ติดตาจนวันนี้เลย คือเป็นผู้หญิงผมยาว กำลังจ้องมองเราอยู่ เรานี่สะกิดแฟนเลย บอกว่า ‘ตัวเองๆ เค้าเจอผู้หญิงยืนจ้องหน้าอยู่..’ แฟนเรากลับบอกว่า ‘นอนๆ เลอะเทอะแล้ว พรุ่งนี้ทำงาน’ แล้วแฟนก็ดึงเราไปกอด ไอ้เราก็อยากรู้ว่าเค้าเป็นใคร จะมาอีกไหม? จากที่เราหลับตาก็เลยลองลืมตาข

ฝันซ้อนฝัน

รูปภาพ
จากที่เป็นสมาชิกมานานพอสมควร เลยอยากจะเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง ไม่ได้เป็นการเจอ ‘ผี’ ตัวเป็นๆ หรอกนะคะ แต่เป็นอาการฝันซ้อนฝัน (ฝันว่าตื่นแต่ความจริงยังฝันอยู่) ที่ทั้งแปลก ทั้งน่ากลัว และเหมือนจริงมากๆ ค่ะ เมื่อปีที่แล้วเราเช่าหออยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ หอนี้ค่อนข้างดังเพราะอยู่ในเมืองใครๆ ก็ต้องรู้จัก.. วันนั้นเรานอนอยู่ในห้องที่ชั้น 3 นั่งเล่นโน็ตบุ๊คฟังเพลงอะไรไปตามปกติ พอถึงเวลาประมาณบ่าย 3 โมง เราก็เผลอหลับไป ในฝันคือเราเหมือนตื่นนะ ลืมตาเห็นแขนตัวเองเพราะตอนตะแคงแบบในรูป จากนั้นเราก็ลุกเดินไปทางซ้ายมือซึ่งคือหน้าต่าง แต่ในฝันมันเป็นอุโมงค์ที่มืดสนิทเลย เราก็ยังเดินเข้าไปนะ เข้าไปได้สักพักเหมือนคิดได้ว่ากลัว เลยรีบหันหลังวิ่งออกมา พอเจอแสงปุ๊บ ภาพก็ตัดเลย แล้วก็เหมือนตัวเองลืมตาขึ้นมาเจอแขนตัวเองอีกแล้ว รอบนี้เราก็ลุกไปที่เดิม แต่มันไม่ใช่อุโมงค์แล้วนะ เป็นเตียง 2 ชั้นเก่าๆ แบบในหอพักโรงเรียนประจำอะไรแบบนั้น เรียงยาวไปสุดลูกหูลูกตาเลย แล้วมีผ้าสีขาวห้อยลงมาเยอะแยะไปหมด ในฝันเราก็ยังเดินเข้าไปจ้า เดินลัดๆ เข้าไปเพราะมันแคบมาก ยิ่งเดินก็ยิ่งไม่เห็นทางออก ก็เลยรู้สึกว่า เห้อ..ขี้เกี

ตาคู่นั้น

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณกุ้งครับ คุณกุ้งเล่าว่า.. กุ้งเป็นคนทำงานกลางคืน ต้องกลับห้องดึกๆ เป็นประจำ คืนหนึ่ง กุ้งกลับมาที่ห้องตามปกติ ก็เปลี่ยนชุดเตรียมตัวอาบน้ำ นั่งล้างเครื่องสำอางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ สายตากุ้งเหลือบมองสะท้อนกระจกไปที่ช่องลมบนผนังด้านหลัง ก็เห็นมีสายตาคู่หนึ่ง กำลังแอบมองลอดมาจากห้องเช่าห้องข้างๆ เลยคิดในใจว่าเป็นพวกโรคจิตบ้ากามจะแอบดู แต่ก็ไม่อยากไปยุ่ง เลยทำเป็นไม่เห็น และระมัดระวังตัว ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ.. พอกุ้งอาบน้ำเสร็จ ออกมาเป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก็ยังคงเห็นสายตานั้นแอบมองลอดมาอยู่ แต่ด้วยความเหนื่อยล้า กุ้งเลยปิดไฟเข้านอนตามปกติ จนเช้าวันรุ่งขึ้น กุ้งตื่นมาเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่สายตานั้นก็ยังคงมองมาอยู่ ทำให้กุ้งรู้สึกหงุดหงิดใจมาก จนต้องออกไปเคาะประตูห้องข้างๆ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดประตู กุ้งจึงตัดสินใจไปเรียก รปภ. ของตึกมาจัดการ และใช้กุญแจสำรองเปิดห้องนั้นเข้าไป สิ่งที่พบคือ.. ชายวัยรุ่นผูกคอตายใต้ช่องลม สภาพลิ้นจุกปาก ตัวซีดขาว ..และสายตาของเขานั้นอยู่ตรงกับช่องลมระหว่างห้องพอดี!  สายตาที่มองกุ้งเมื่อคืนนั้น คือสายตาข

งานพาร์ทไทม์

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนปิดเทอมฤดูร้อนค่ะ เราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ช่วงปิดเทอมก็เลยไปหางานพาร์ทไทม์ทำ เราได้ทำงานที่มินิมาร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่แถวทางไปสนามบิน วันแรกที่เราเข้าไปทำงาน พี่ที่ทำงานให้เราเอาของไปเก็บที่หลังร้าน เราก็เอาไปเก็บ ข้างหลังจะเป็นเหมือนโกดังเก่าๆ น่ากลัว ความรู้สึกมันอึดอัด อบอ้าว ห้องสต็อคของหลังร้านจะเป็น 2 ส่วน ส่วนด้านหน้าคือที่เก็บจำพวกของใช้ ส่วนหลังเก็บพวกของกิน แล้วจะมีห้องน้ำอยู่ข้างๆ ทางไปห้องน้ำจะน่ากลัวหน่อย เพราะว่าชั้นวางของต่างๆ จะเยอะ และสูงบังหน้าห้องน้ำค่ะ วันแรกเราก็ทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร พอมาวันที่ 3 วันนั้นเราเข้างานกับพี่พนักงานอีกคน รวมเราเป็น 2 คน ช่วงพักเที่ยงเราจะผลัดกันกินข้าว คนนึงเฝ้าหน้าร้าน อีกคนกินข้าวหลังร้าน ซึ่งเราได้กินข้าวก่อนค่ะ โต๊ะกินข้าวอยู่ในห้องสต๊อคของ มีกระจกบานใหญ่ติดไว้ตรงโต๊ะกินข้าว เรากินข้าวไปสักพัก ก็ได้ยินเสียง  ‘ครืดดด.. ครืดด..’  เป็นเสียงลากตะกร้าเขียวหลังร้านค่ะ คนที่จะลากตระกร้าเขียว ต้องเป็นคนที่จะเอาของไปเติมหน้าร้าน แต่วันนั้นมันมีแค่เราอยู่กับพี่อีกคน ซึ่งพี่เค้าต้องเฝ้าหน้าร้าน

ฝังไว้ในพื้นดิน

รูปภาพ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จักชื่อว่า ฝ้าย ครับ ฝ้ายเล่าเรื่องราวน่ากลัวนี้ให้ฟังว่า เมื่อปี พ.ศ. 2559 ฝ้าย กับ แพรว เพื่อนอีกคนหนึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ามาหางานทำในเมืองเหมือนคนทั่วไป โดยไปอาศัยอยู่บ้านญาติก่อน พออยู่บ้านญาติได้ 2 เดือนก็ออกไปหาห้องเช่าอยู่ เป็นห้องแถว 2 ชั้นอยู่สุดซอยแห่งหนึ่ง มีต้นโพธิ์ และชิงช้าอยู่หน้าตึกพอดี พอฝ้ายกับแพรวย้ายเข้าไปแล้วก็ตกใจ เพราะในห้องมีผ้ายันต์สีแดงติดอยู่ ไม่พอ ที่อ่างล้างหน้าก็พบกำไลวางอยู่คู่หนึ่ง คิดในใจว่าคงเป็นกำไลข้อเท้า ครั้นจะไม่เอาห้องนี้ก็ไม่ได้ เพราะเป็นห้องเดียวที่ว่างอยู่ สองสาวขนของเข้ามาเตรียมพร้อมที่จะเข้าอยู่ คืนแรกทั้งสองคนฝันเหมือนกันว่า มีผู้หญิงใส่ชุดนางรำเดินรำวนรอบเตียงนอน แล้วพอตื่นขึ้นมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อกำไลมาใส่อยู่ที่ข้อเท้าของทั้งสองคน แต่ใส่คนละข้าง ทั้งคู่รีบถอดออก แล้วก่อนไปทำงานก็เอากำไลนั้นไปวางไว้ที่โคนต้นโพธิ์หน้าตึก แต่พอเลิกงานกลับมาพร้อมกัน ก็พบว่ากำไลคู่นั้นกลับมาวางอยู่ในห้องที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอีก! เหตุการณ์นี้เป็นไปแบบเดิม 6 วัน จนคืนวันที่ 7 ทั้งสองคนถือกำไลออกมาจากห้องเ

เริ่มต้นรู้จักผี

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นการรู้จักผีของเราเลยค่ะ ย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ เราเป็นเด็กบ้านนอก อาศัยอยู่กับตายาย เราชอบออกไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายกับตา ตายายมีอาชีพเลี้ยงวัวเลี้ยงควายขายค่ะ ตั้งแต่เราจำความได้ เราไม่เคยรู้เลยว่าผีคืออะไร ไม่เคยกลัวผี แต่ตาบอกว่าเรามักจะมีอาการบางอย่าง ทุกครั้งที่มีผีหรือวิญญาณเข้ามาใกล้ ซึ่งตาของเราจะรู้ดีเพราะแกเป็นหมอผีค่ะ มีวันหนึ่ง เราไปดูตาไถนากับญาติพี่น้อง เรานั่งรอที่กระท่อม กว่าตาจะไถนาเสร็จก็ปาเข้าไป 6 โมงเย็นแล้ว ล้างมือล้างเท้าเพื่อเตรียมจะกินข้าวกัน ก็จุดไฟตะเกียงเพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว ขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่ จู่ๆ เราก็แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ตาเราดูออกทันที เลยรีบหยิบพระที่แขวนบนเสามาห้อยคอให้เรา เราก็หาย แต่ตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น มาถึงตอนที่น้าเราเสีย แกผูกคอตายทั้งๆ ที่ท้องอ่อนอยู่ เราก็ไปกับตา ตาไปตัดเชือกเพื่อที่จะเอาร่างของน้าลงมา เราก็ยืนดูอยู่ห่างๆ ตาเอามือปิดตาให้น้า แต่น้าไม่ยอมหลับตา พยายามเอามือกดลิ้นที่จุกคาปากให้น้า แต่กดเท่าไหร่ก็ไม่เข้า จนตาต้องท่องคาถาให้ถึงจะกดเข้าได้ และตาก็ปิดเอง แต่เราไม่กลัวเลยนะตอนนั้น จนกระทั่ง

ผู้ชายที่ตามมา

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เองครับ ตัวผมทำงานอยู่ที่โรงงานเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี เป็นโรงงานเก่าแก่ครับ เช้าวันหนึ่งช่วงก่อนเข้าพรรษา ขณะที่ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานตามปกติ อยู่ๆ ก็มีความรู้สึกว่ารถผมเร่งไม่ค่อยขึ้นเหมือนเคย ตอนนั้นผมก็คิดว่ารถผมคงมีปัญหาที่เครื่องยนต์ ก็ไม่ได้คิดอะไร ผมไปถึงที่ทำงาน และเข้างานตามปกติ แต่ตอนทำงานผมมีความรู้สึกปวดเมื่อยที่หัวไหล่ทั้งสองข้างอย่างมาก ตอนเวลา 11 โมง ผมเลยขออนุญาตหัวหน้าไปพักก่อนเวลา หัวหน้าเลยให้ไปนอนที่หอพักพนักงาน ซึ่งผมขอเอาไว้ห้องหนึ่งเผื่อเวลาฝนตก หรือทำโอทีดึก จะได้นอนพัก ผมเข้าห้องไปก็นอนหลับเลยครับ แล้วก็เริ่มฝัน ในความฝันของผมมันสะเปะสะปะ แต่ในเรื่องราวจะมีผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก อยู่ในฝันทุกๆ เรื่อง ผมนอนจนถึงเวลาใกล้บ่ายกำลังจะตื่นไปทำงาน ผมนอนในท่าเอามือขวาก่ายหน้าผาก แล้วผมก็มีความรู้สึกว่าแขนขวาผมที่ก่ายหน้าผากมันยกไม่ขึ้นครับ และเหมือนมีแรงกดลงมาที่หน้าผมแรงมากๆ แรงจนรู้สึกเจ็บที่หน้า ผมพยายามลืมตาแต่ก็ลืมได้เพียงลางๆ ผมเห็นเงาผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ยืนมองมาที่ผม ด้วยความที่ผมเป็นค

สยองที่เมืองทอง

รูปภาพ
เหตุการณ์ที่จะเล่านี้ผ่านมาประมาณปีกว่าๆ แล้วค่ะ ช่วงนั้นเราเป็นเด็กกิจกรรมของชมรมในโรงเรียน ซึ่งมันก็จะมีกิจกรรมเข้ามาอยู่เรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือการไปประกวดชมรมที่ต่างสถานที่ และที่ที่จะไปกันคือย่านเมืองทอง จังหวัดนนทบุรี ไปกับรุ่นพี่ คณะครู และเพื่อนๆ รวม 30 กว่าคนได้ ไป 3 วัน 2 คืนค่ะ ทุกคนจะถูกแบ่งที่พักกันไว้เรียบร้อยแล้ว สถานที่พักเป็นคอนโดเก่าๆ แห่งหนึ่ง คนที่อยู่ย่านเมืองทองน่าจะรู้จักกันดี พอไปถึงเราก็รับกุญแจอะไรเรียบร้อย ต่างกลุ่มต่างก็แยกย้ายกันไปที่ห้องพักของตัวเอง เราได้นอนกับเพื่อนอีก 3 คน รวมเราเป็น 4 คน ไขกุญแจห้องเข้าไปทุกอย่างดูปกติดีค่ะ ขวามือเป็นห้องน้ำอยู่ติดกับประตูเข้าห้อง ลักษณะห้องเป็นห้องแฝด มีห้องข้างในกับข้างนอก เรากับ เอ (นามสมมติ) นอนห้องข้างใน ส่วนเพื่อนอีก 2 คนนอนห้องข้างนอกค่ะ.. คืนแรกพอจัดของจัดอะไรเสร็จ เราเป็นคนแรกที่อาบน้ำค่ะ ตอนเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เราเห็นเส้นผมที่พื้นกระจุกหนึ่ง ในใจก็คิดว่าแม่บ้านคงทำไม่สะอาด ก็ไม่ได้สนใจ พออาบไปได้สักพัก เราก็ได้ยินเสียงคนทุบผนังห้องน้ำค่ะ ทุบแบบดังมาก ตกใจเลย แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าอาจจะเป็นเสียงห้

อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งย่านอโศก

รูปภาพ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอยู่ในเหตุการณ์ในสถานที่นั้น แต่เราไม่ได้เห็นอะไร เป็นคนอื่นเห็นค่ะ คือเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เราไปอยู่กับน้าที่เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งแถวอโศก เป็นตึกใหม่เพิ่งเปิดได้เพียง 6 เดือนเอง ให้เช่าแบบรายวัน กับรายเดือน ห้องของน้าเราจะอยู่ชั้น 6 ค่ะ ทุกๆ วันหลังเลิกเรียน ประมาณ 5-6 โมงเย็น เราจะพาลูกชายของน้าอายุ 2 ขวบครึ่ง ไปเล่นที่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งมันจะเป็นสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ วันนั้น 5 โมงเย็น เรากับน้องก็เดินไปที่ลิฟท์จะขึ้นไปข้างบนตามปกติ ลิฟท์จะมีอยู่ 2 ตัว ตัวแรกอยู่ติดโถงทางเดิน ตัวที่ 2 อยู่ถัดไป หน้าลิฟท์จะเป็นบันได ถ้าเดินลงบันไดมาจากข้างบนจะต้องเดินผ่านลิฟท์ตัวที่ 2 มา พอเราเดินไปถึง น้องก็ทำลูกบอลหล่นกลิ้งลงไปชั้น 5 เราก็พาน้องลงไปเก็บ ทีนี้พอลงไปถึงชั้น 5 กำลังจะเดินอ้อมผ่านลิฟท์ตัวที่ 2 มาตัวที่ 1 อยู่ๆ น้องเราก็หยุดเดินแล้วดึงมือเราไว้ เราก็เลยจะปล่อยมือ คิดว่าน้องคงจะรอตรงนี้ แต่น้องก็ไม่ยอมให้ปล่อยมือ เอาอีกมือกอดขาเราไว้แล้วร้อง ‘พี่แนทๆ ผีหลอกๆๆๆ’ แล้วก็มองไปที่ลูกบอล พร้อมกับเหลือบตามองสูงขึ้น แล้วหลับตาปี๋ เราก็งง เลยอุ้มน้องแล้วเดินไปหย

เธอต้องเลือก

รูปภาพ
เรื่องราวนี้บอกเล่าจากรุ่นน้องของผมที่ชื่อว่า แจ็ค แต่เป็นเรื่องที่แฟนสาวของมันที่ชื่อว่า เอิง เล่าให้ฟังอีกที ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนั้นเอิงอายุได้ 17 ปี หลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เธอตัดสินใจเข้ามาเรียนในตัวจังหวัด ซึ่งเอิงเลือกที่จะเรียนวิทยาลัยครู วิชาเอกนาฏศิลป์ด้วย ระยะทางจากบ้านไปวิทยาลัยราวๆ 15 กิโลเมตร ช่วงแรกก็ขึ้นรถประจำทางไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเธอสงสารจึงไปออกรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมสีขาวให้ เพื่อที่จะขี่ไปกลับ แล้วเอิงเป็นคนที่ไม่เคยกลับบ้านดึกเลย เต็มที่คือทุ่มครึ่งก็ต้องถึงบ้านแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องน่ากลัวสำหรับเธอขึ้น หลังจากเอิงเรียนเสร็จแล้วประมาณบ่าย 3 โมง เพื่อนๆ ได้ชวนเธอไปกินสุกี้หม้อรวมที่บ้าน ตอนแรกก็คิดจะปฏิเสธ แต่ทนเพื่อนๆ รบเร้าไม่ไหว เธอบอกว่าได้ แต่อย่าดึกนะ เดี๋ยวกลับดึกพ่อแม่จะเป็นห่วง จนเวลาล่วงเลยไป.. ดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว เพื่อนก็ชวนให้เอิงนอนค้างที่บ้านเลย แต่เอิงบอกว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ที่บ้านจะไปวัดแต่เช้า ยังไงก็คงต้องกลับบ้าน เอิงขี่รถออกจากบ้านเพื่อนมาตามทางเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็ปวดท้องเลยมองห

แอนนาเบลล์ไทย

รูปภาพ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องเมื่อสมัยผมยังเด็กครับ ย้อนกลับเมื่อ 14 ปีที่แล้ว วันหนึ่งครอบครัวผมได้ไปเที่ยวกันที่จังหวัดภูเก็ตครับ แล้วไปเจอร้านขายของเก่าอยู่ร้านหนึ่ง พ่อกับแม่ผมเข้าไปดูของกันในร้าน แล้วก็ไปเจอกับหุ่นลองเสื้อเต็มตัวตัวหนึ่ง (หุ่นผู้ชาย) สูงราวๆ 160 กว่าๆ ได้ ในตอนนั้นบ้านผมอยู่ที่นนทบุรีครับ เพิ่งจะรีโนเวทบ้านใหม่ แม่ผมอยากได้หุ่นมาตั้งโชว์ในห้องพระสักตัว เท่าที่ผมจำได้ เราซื้อหุ่นนั่นมาในราคาที่ถูกมาก จากนั้นก็ขนกลับบ้านไป พอมาถึงบ้าน ก็ทำการประกอบหุ่นแล้วใส่เสื้อให้หุ่น เป็นชุดชายไทยประยุกต์ครับ เสื้อสีขาวปกปิดคอ เหมือนท่านเจ้าคุณ แต่ใส่กางเกง แล้วก็ตั้งไว้ในห้องพระ แรกๆ ผมก็กลัวนะ แต่หลังๆ ก็เริ่มชิน เพราะมันไม่มีอะไร แค่หุ่นธรรมดาทั่วไป จนเวลาผ่านไปได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนได้ โดยเหตุการณ์แรก ผมไม่ได้เจอเองโดยตรงหรอกนะครับ ตอนนั้นผมพาเพื่อนมาเล่นซ่อนแอบกันที่บ้าน ผมขึ้นไปแอบในห้องชั้น 3 ครับ ซึ่งห้องพระที่เป็นที่ตั้งของหุ่นจะอยู่ชั้น 2 ผมได้ยินเสียงว่าเพื่อนกำลังวิ่งขึ้นมาละ แต่สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนเพื่อนวิ่งกลับลงไปด้านล่าง แล้วก็เงียบหาย

หอพักผี

รูปภาพ
 เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เราเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เป็นนักศึกษารุ่นแรกที่ได้เข้าไปอยู่หอพักใหม่ ตึกใหม่ ของมหาวิทยาลัยนี้ค่ะ หอพักนี้ถึงจะใหม่ แต่กลับมีเรื่องราวแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นตลอดการอยู่หอพักแห่งนี้เลยค่ะ (เยอะจนเล่าไม่หมด) ใครที่เคยอยู่สมัยนั้นจะรู้ดี.. ขออธิบายลักษณะอาคารหอพักก่อนนะคะ สมัยนั้นหอพักจะมีทั้งหมด 9 อาคาร เป็นห้องพัดลมอยู่ได้ 4 คน อาคารทั้งหมดจะแบ่งเป็นสองฝั่งมีถนนตรงกลาง รอบนอกเป็นป่าและภูเขา เราอยู่อาคาร 8 ซึ่งอยู่เกือบจะในสุด หอพักมี 4 ชั้น เราอยู่ชั้น 3 ห้อง 314 ค่ะ ลักษณะห้องพักแต่ละห้อง ประตูจะตรงกันหมด คือประตูระเบียง > ประตูห้อง > ประตูห้องตรงข้าม > ประตูระเบียงห้องตรงข้าม ซึ่งเราเคยรู้มาว่าประตูตรงกันแบบนี้ เค้าเชื่อว่าเป็น  ‘ทางผีผ่าน’ ห้องเรามีรูมเมท 4 คน เตียงจะอยู่คนละมุมห้องเลย ด้านหลังตรงกลางเป็นประตูเปิดไประเบียงห้อง ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ เรานอนมุมขวามือติดกับประตูห้อง แค่ช่วงสัปดาห์แรกที่เข้ามา ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ เลยค่ะ เพื่อนในห้องเราทุกคนได้ยินเหมือนกันหมด เป็นเสียงเหมือนคนลากเหล็กเดินผ่านหน้าห้อง ไ

ผีหยอก

รูปภาพ
เรื่องนี้อาจจะฟังดูแปลก แต่ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเราเองค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 5-6 ปี ตอนเราเรียนอยู่ชั้น ม.2 เราเรียนที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เราเป็นเด็กกิจกรรมเป็นแดนเซอร์ของโรงเรียน และอย่างที่รู้กันว่าเด็กกิจกรรม มักจะต้องมีเหตุให้กลับบ้านค่ำกว่าคนอื่นๆ แน่นอน.. ช่วงนั้นเราต้องซ้อมเต้นทุกวัน ซึ่งก็เป็นไปตามปกติราบรื่นดี ถึงแม้ว่าเราจะเคยได้ยินรุ่นพี่เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องผีในโรงเรียนอยู่บ่อยๆ ซึ่งเราเองก็ยังไม่เคยเจอหรอก จนมาวันหนึ่ง วันที่เกิดเหตุการณ์ที่เราจำได้ไม่เคยลืม..   วันนั้นช่วงประมาณ 6 โมงค่ะ เราซ้อมเต้นอยู่ในโรงยิม จู่ๆ เราก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ เลยชวนรุ่นพี่ไปเป็นเพื่อนด้วย 1 คน ลักษณะห้องน้ำมันจะเรียงติดกันยาวๆ เรากับรุ่นพี่เข้าห้องน้ำติดกัน แต่เราทำธุระเสร็จก่อนรุ่นพี่ แล้วเราก็นึกสนุกค่ะ เราไปแอบข้างประตูแล้วร้อง ‘ตั๊กแก่’ ให้รุ่นพี่ที่ออกมาทีหลังตกใจเล่น ซึ่งก็ได้ผลค่ะ รุ่นพี่ตกใจร้องกรี๊ดลั่นเลย รุ่นพี่คนนี้แกกลัวตุ๊กแกมากๆ   พอทำธุระเสร็จ พวกเราก็ไปนั่งพักที่ศาลาหน้าห้องน้ำ เรานั่งสักพัก เหมือนมีอะไรดลใจให้เราหัน

ซิสเตอร์

รูปภาพ
เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์สยองขวัญในคืนวันเกิดของตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นวันเกิดอายุครบ 19 ปีของเรา คือหลังจากที่เรียนจบ ม.6 ที่ไทย เราก็ไปต่อที่อเมริกาในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่ไฟแรง เราเลยอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย บางทีก็นอนมันตรงนั้นเลย (ห้องสมุดเปิด 24 ชั่วโมง) แต่ในคืนวันเกิดเรา ที่บ้านโทรตามให้กลับไปฉลองกัน เราเลยกลับบ้านเร็วกว่าปกติ มองดูนาฬิกาตอนนั้นก็ 3 ทุ่มเกือบๆ 4 ทุ่ม ยังไม่ดึกมาก ด้วยความที่อยากกลับถึงบ้านเร็วๆ เราเลยเดินลัดไปที่โบสถ์เพราะจะได้ไม่ต้องเดินอ้อม และเราเพิ่งเคยกลับทางนี้เป็นครั้งแรกด้วยค่ะ เราเดินไปเรื่อยๆ จนเดินมาถึงภายในโบสถ์ ก็ได้ยินเสียงระฆังจากหอนาฬิกาดังขึ้นบอกเวลา 4 ทุ่ม เราก็เดินไปอย่างชิลๆ เพราะรอบๆ เปิดไฟสว่างไว้ตลอด พอเดินมาถึงหอนาฬิกา ก็มีซิสเตอร์คนหนึ่งเดินสวนเราไป คาดว่าน่าจะไปสวดมนต์ก็เลยไม่ได้สนใจ พอเราเดินต่อไปได้แค่ 5-6 ก้าว ก็ได้ยินเสียงระฆังบนหอนาฬิกาดังขึ้นอีกครั้ง ก็เลยงงว่าทำไมถึงดังขึ้นมาอีก พอเราหันไปมองเท่านั้นล่ะ

เตียงที่บริจาคมา

รูปภาพ
ครั้งหนึ่งในอดีต ถึงเวลาที่แม่ของเราต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ด้วยเพราะอายุที่เข้าวัยชรา พอเห็นแม่แอบย่องเข้าห้องน้ำกลางดึกคนเดียว แล้วก็เกิดอุบัติเหตุหกล้มบ่อยๆ เราจึงตัดสินใจโทรไปที่มูลนิธิโรงพยายาลรัฐแห่งหนึ่ง เพื่อขอรับบริจาคหากมีเตียงคนไข้สักเตียง จะเอามาให้แม่นอน ยกไม้กั้นเตียงไว้แม่จะได้แอบลงมาเองไม่ได้อีก เราเองก็จะได้นอนหลับสนิทสักที คือเราคิดแค่นี้เองจริงๆ เราตัดสินใจปุบปับในเช้าวันนั้น แล้วโทรไปในเวลา 9 โมง ทางมูลนิธิแจ้งว่ายังไม่มีใครบริจาคเตียง ต่อมาราวๆ 11 โมง ทางมูลนิธิก็โทรมาแจ้งว่ามีคนบริจาคเตียงมาเมื่อสักครู่ เราจะรับไหม? เราเลยถามความเป็นมา ทราบว่าผู้บริจาคเป็นลูกสาวของคนไข้เจ้าของเตียง ตัวคนไข้คือคุณแม่ของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสักพักนี้เอง หลังจากเคลื่อนศพไปวัดแล้ว ผู้บริจาคจึงยกเตียงให้โรงพยาบาล เตียงยังใหม่มาก เราก็เลยตกลง.. เมื่อเตียงมาถึง มาพร้อมที่นอนและผ้าปูสีขาวเหมือนในโรงพยาบาล เราทำความสะอาดแล้วพาแม่ขึ้นเตียง ยกไม้กั้นเตียงขึ้น ความรู้สึกคือเหมือนเราชนะแล้ว ในที่สุดเราก็ขังแม่ไว้ได้ เราเห็นสายตาแม่ที่มองมา เอามือเล็กๆ นั้นจับไม้กั้นเตียงไว้ เราไม่รู้ว่