บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2019

เที่ยวบ้านจ่า

รูปภาพ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ป้าลิ้ม 10 กว่าปีได้ จนป้าลิ้มแกย้ายออกจากชุมชนไปแล้ว ผมเองก็โตขึ้นจนรู้อะไรเป็นอะไรแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังบ้านผมเนี่ย มันเป็นซอยเล็กๆ ข้างในซอยจะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ อยู่มานาน ก่อนที่พ่อแม่ผมจะมาสร้างบ้านอีก บ้านนี้เป็นของตระกูลทหารตำรวจ สืบทอดกันมาหลายรุ่น จนมารุ่นของ จ่าท้วม ชื่อจริงแกชื่ออะไรไม่ทราบ แต่คนแถวบ้านจะเรียกแกว่าจ่าท้วม เพราะตัวแกอ้วนกลมเหมือนมะขามข้อเดียว แกเป็นอดีตทหารเก่า แก่เกษียนก่อนกำหนด ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่าท้วมแกมีนิสัยแปลก ชอบเที่ยวป่า ล่าสัตว์ สมัยนั้นกฏหมายยังไม่เข้มงวด จ่าท้วมมักจะหายจากบ้านไปหลายวัน แล้วจะกลับมาพร้อมสัตว์แปลกๆ แกเอามาเลี้ยงบ้าง กินบ้าง ที่เห็นๆ ในบ้านแกมีกรงชะนี ลิงแปลกๆ นกยูง เก้ง ชะมด เยอะแยะมากมาย เหมือนบ้านแกเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ หลานชายจ่าท้วมแกเป็นเพื่อนกับผม วันดีคืนดีก็จะพาผมแอบเข้าไปในบ้าน ไปดูสัตว์แปลกๆ ที่จ่าท้วม (ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่) ชอบสะสม บนบ้านก็จะมีพวกปืนล่าสัตว์ เขากวาง กะโหลกสัตว์ แขวนเรียงรายกันเต็มไปหมด ดูแล้วน่าขนลุก มีอยู่ช่วงหนึ่ง จ่าท้วมแกไปล่าสัตว์ บังเอิญทำอีท่าไหนไม่รู

ออกตรวจโรงแรมสร้างใหม่

รูปภาพ
สวัสดีครับแอดมิน พอดีเห็นแอดโพสต์เรื่องเกี่ยวกับโรงแรม ผมเลยมีประสบการณ์อยากเล่าให้อ่านครับ.. เรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากเพื่อนร่วมงานอีกที เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ก่อนจะเป็นพื้นที่ไว้สร้างโรงแรม ที่ตรงนั้นเคยเป็นหน้าผา คนพื้นที่เล่าว่าเมื่อก่อนเป็นป่ารก เขามักจะเอาไว้ใช้เป็นที่อำพราง หรือเอาศพไปทิ้งตรงนั้น เป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมา จริงเท็จยังไงก็ไม่อาจทราบได้   พอโรงแรมนี้สร้างได้ 80% พร้อมจะขายให้แขกเข้าอยู่แล้ว ทุกๆ เย็น หัวหน้าช่างของโรงแรมก็จะต้องทำการสำรวจตรวจเช็คบริเวณต่างๆ โดยรอบ เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย.. เย็นวันหนึ่ง หัวหน้าช่างแกขับรถกอล์ฟพาลูกน้องไปด้วย 2 คน ไปถึงโซนหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางผาเลียบทะเลยาวไปประมาณ 500 เมตร พอไปได้ประมาณ 100 เมตร ก็เห็นหมาสีดำตัวใหญ่ 2 ตัว สูงประมาณเอวได้ วิ่งนำหน้าตัดสลับไปมา หัวหน้าช่าง และช่างอีก 2 คนก็ตกใจ ว่าบนหน้าผาแบบนี้ หมาที่ไหนมาวิ่งกัน ทีแรกนึกว่าเป็นของคนงานก่อสร้าง แต่แคมป์คนงานก็อยู่อีกฟากของภูเขา พอขับตามหมาไปจนจะถึงท้ายโซน หมาดำทั้ง 2 ตัวก็วิ่งเข้าไปในต้นไม้หายวับไปกับตาทั้ง คน ย้ำว่าวิ่งเข้าไปในต้นไม้เลยนะครับ ดู

แรงกว่าสัมภเวสี

รูปภาพ
แรงกว่าสัมภเวสี “ตาชัน” กับ “ยายเล็ก” มีลูกสาว 3 คน คือ แดง กาญจน์ ชบา (น้อย) … คืนนึง “น้อย” ลงไปเข้าห้องน้ำตอนดึก แล้วเกิดล้มหัวฟาดกับพื้น ฝ่ายพ่อ-แม่เห็นลูกสาวลงไปเ ข้าห้องน้ำนานผิดปกติก็เลยล งไปดู แล้วก็เห็น “น้อย” นอนหมดสติอยู่ จึงพากันอุ้มกลับขึ้นไปบนบ้ าน พอรุ่งขึ้นก็เกิดเหตุการณ์แ ปลกๆ ขึ้นกับ “น้อย” ! เริ่มจากเสียงพูดของ “น้อย” ไม่เหมือนเดิม เป็นเสียงของคนหลายคนสลับกั นพูด ทั้งเสียงของคนแก่ท ั้งผู้ชาย-ผู้หญิง เด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ฯลฯ ต่อมา “น้อย” เริ่มไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำเป็นอาทิตย์ เรียกพ่อกับแม่ว่า “ไอ้ชัน” กับ “อีเล็ก” ไม่ใส่เสื้อผ้าทั้งตอนอยู่บ ้านและตอนที่จะออกไปข้างนอก  เวลาที่คนในบ้านเผลอก็มีแต่ จะหนีออกนอกบ้าน คนในบ้านจึงต้องช่วยกันจับเ อาไว้ทุกครั้ง ต่อมาจึงต้องล่ามโซ่เอาไว้ อยู่มาวันนึง “น้อย” ก็บอกกับตาชัน-ยายเล็กว่าตน อยากกินข้าว เลยให้ยายเล็กไปทำแกงสับปะร ดและให้ตาชันไปหุงข้าว พอทำกับข้าวเรียบร้อยแล้วก็ เกิดเรื่องขึ้น เมื่อ “น้อย” กินไปได้แค่คำเดียว ก็หยิบเอาถ้วยแกงสาดใส่หน้า ยายเล็ก พร้อมกับตะโกนด่าทอว่า “มึงทำรสชาติแบบนี้กูแดกไม่ ได้หรอก แล้วกูตั้ง 3

ที่เจอคืออะไร

รูปภาพ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง… ช่วงเช้าวันอาทิตย์เราไปงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตอนเย็นก็อยู่กินเลี้ยงกันจนค่ำ พองานเลิก..เราก็ขับรถกลับบ้านกับแม่และน้องชาย เวลานั้นเป็นเวลาประมาณตี2ครึ่ง ถึงอ.พุทไธสง เราปวดฉี่มาก ขับรถมาตั้งนานก็ยังไม่เจอปั๊มน้ำมัน จนกระทั่งมาเจอปั๊มPT ที่ดูใหม่มาก ปั๊มสว่างและดูใหม่แตกต่างจากละแวกนั้นที่เราขับผ่านมาซึ่งมืดมาตลอดทาง พวกเราจึงแวะเข้าปั๊มเพื่อไปปลดปล่อยกัน.. เราจอดรถตรงหน้าทางเข้าห้องน้ำ (เราเองเป็นคนกลัวผีมากถึงมากที่สุด ) แม่เราขอรอในรถ เราจึงลากน้องชายไปเข้าห้องน้ำด้วย แม้จะเป็นห้องน้ำหญิงแต่มันก็ดึกมากแล้ว เราก็เลยให้น้องชายไปยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำ.. พอเราเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูปุ๊บ..ไฟก็ดับ!!! เราคิดว่าน้องชายแกล้งแน่ๆ เลยตะโกนด่ามันไปว่า “แกปิดไฟทำไม..เปิดเดี๋ยวนี้!!” น้องชายเราก็เงียบไป เราก็ตะโกนด่ามันอีก น้องชายเราก็เลยตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นๆ “ปิดไฟอะไรล่ะ ออกมาเลย..ออกมาเดี๋ยวนี้เลย” ตอนนั้นเราขนหัวลุกเลยค่ะ รีบไปเปิดประตูออกมา ส่วนน้องเราวิ่งนำออกไปแล้ว เราวิ่งออกมาถึงหน้าทางเข้าห้องน้ำ ปรากฎว่าทุก

คุณย่าผู้มีบุญ

รูปภาพ
ย้อนไปปี พ.ศ. 2505 สมัยที่เรายังเด็กมากๆ (ปัจจุบันเราอายุ 61 ปีแล้ว) พ่อเราปลูกบ้านอยู่ริมแม่นำ้ปิงที่จังหวัดกำแพงเพชร แล้วพ่อไปรับย่าที่บวชเป็นแม่ชีมาจากวัด ตอนนั้นท่านก็อายุ 70 ปีแล้ว พอมาอยู่บ้าน ย่าก็นุ่งขาวห่มขาวเดินจงกรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำวัตร ปฏิบัติเหมือนแม่ชีทุกอย่าง ด้วยความที่พ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน เราเลยต้องอยู่กับย่าสองคนตลอด เวลากลางคืน เราก็ไปนอนข้างๆ ย่า สมัยก่อนยังใช้จุดตะเกียงอยู่ ภาพที่เราเห็นทุกวัน คือย่าจะนั่งสมาธินานมากๆ แล้วออกไปเดินจงกรมบนชานเรือนริมน้ำ แล้วแผ่เมตตากรวดน้ำ คืนหนึ่ง เราตื่นมากลางดึก เห็นย่านั่งสมาธิหลับตาอยู่ แต่สายตาเราเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจากท่านำ้ มายืนชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง อายุน่าจะราวๆ 12 ปี ใส่กางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน เสื้อกล้ามสีขาว เราก็เรียกย่า  ‘ย่าๆ ไม่รู้ใครขึ้นมาบ้านเรา..’  ย่าไม่ลืมตาดู แต่ย่าบอกว่า  ‘นอนๆ ไม่มีใครมาหรอก ดึกแล้ว..’  เราก็บอก  ‘มีสิ! ยืนอยู่ตรงประตู ย่าลืมตาสิ’  ย่าก็เอาแต่บอกว่าให้เรานอนๆๆ สักพัก เด็กผู้ชายคนนั้นก็เดินออกไป.. พอตอนเช้า มีศพเด็กผู้ชายตกนำ้ตายลอยมาติดที่ท่าน้ำบ้านเรา สภาพคือขึ้นอืดเลย น่าจะต

นักร้องที่โรงแรม

รูปภาพ
 ย้อนไปปี พ.ศ 2530 สมัยเราทำงานเป็นนักร้องอยู่ที่ภูเก็ตค่ะ เพื่อนเราที่เป็นนักดนตรีบอกว่า ที่จังหวัดสตูลมีโรงแรมเปิดใหม่ได้ประมาณ 2 ปี นักร้องสากลที่นั่นกำลังจะหมดสัญญา ต่อสัญญามา 2 ครั้งแล้ว ให้เราลองไปออดิชั่นดู เงินเดือนดี มีที่พักให้ เราก็สนใจเลยโทรไปว่าจะไปออดิชั่น   โรงแรมที่ว่านี้ติดชายแดนมาเลเซีย เป็นโรงแรม 5 ดาว ใหญ่ที่สุดในจังหวัด พอเราไปถึง พนักงานก็พาไปไขกุญแจเข้าห้องพัก (ได้พักฟรี 1 คืน) ห้องที่นี่สวยมากๆ เราได้อยู่ชั้น 5 โรงแรมมี 7 ชั้น มีคอฟฟี่ช็อป และบาร์ชั้นใต้ดินของโรงแรม พอเข้ามาในห้อง ตอนแรกว่าจะนอนพักผ่อนสักหน่อย เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง แต่ก็นอนไม่หลับ รู้สึกแปลกๆ เหมือนเราไม่ได้อยู่คนเดียว สักพัก มีคนมาเคาะห้อง เราก็เปิดออกไป เค้าแนะนำตัวว่าเป็นผู้จัดการ เราก็เชิญเข้ามาในห้อง ก็นั่งคุยกันว่า ให้เราลงไปออดิชั่นตอนทุ่มครึ่ง แล้วผู้จัดการก็ชวนลงมาดูคอฟฟี่ช็อป เดินดูรอบๆ โรงแรม เราก็ถามว่า ที่พักของนักร้องนักดนตรีอยู่ที่ไหนคะ? เค้าก็ชี้ให้ดู มันจะมี 2 ที่ อยู่ติดกัน เป็นตึก กับเป็นบ้านไม้เก่าๆ ข้างโรงแรม มี 5 ห้อง ดูแล้วสมัยก่อนน่าจะเป็นเรือนคนรับใช้ แน่นอนว่าค

งานศพพ่อตา

รูปภาพ
เรื่องนี้เคยได้ยินคนเล่าต่อๆ กันมา เป็นเรื่องราวในงานศพของพ่อตาที่เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน ในงานศพ ลูกเขย 3 คนของพ่อตา ต่างยืนเรียงหน้ากันข้างโลงศพเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย.. ลูกเขยคนโต  มีอาชีพเป็นหมอ ได้พูดขึ้นว่า..  ‘พ่อได้จากพวกเราไปแล้ว.. นี่คือสิ่งที่ผมคงทำให้พ่อได้เป็นครั้งสุดท้าย’  แล้วลูกเขยคนโตก็หยิบเงินสดจำนวน 100,000 บาทใส่ลงไปในโลง และพูดว่า  ‘ผมให้พ่อไปใช้ในภพหน้าครับ..’ ลูกเขยคนกลาง  มีอาชีพเป็นครู เห็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นบ้างว่า..  ‘ผมก็คงไม่มีอะไรจะให้พ่อ ตำแหน่งผมก็ยังเล็กอยู่ ผมให้เงินพ่อไปใช้ในภพหน้าแล้วกัน..’  แล้วลูกเขยคนกลางก็หยิบเงินสดจำนวน 70,000 บาท ใส่ลงไปในโลง ส่วน  ลูกเขยคนเล็ก  เป็นตำรวจ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า..  ‘ผมเพิ่งเป็นตำรวจใหม่ๆ เงินเดือนผมก็ยังน้อยอยู่ ผมคงช่วยพ่อได้แค่ 30,000 บาทนะครับ..’  พูดจบลูกเขยคนเล็กก็หยิบเช็คขึ้นมา เขียนตัวเลขลงไป 200,000 บาท และฉีกออกจากเล่มวางใส่ลงไปในโลง แล้วหยิบเงินทอนขึ้นมา 170,000 บาท ก่อนจะร้องห่มร้องไห้เดินจากไป.. https://mm88.bet/

ผีเร่ร่อนตามมา

รูปภาพ
เรื่องมีอยู่ว่า.. คือพี่เราโดนรถเมล์ทับหัว แถวๆ สี่แยกตรงจรัญฯ เสียชีวิตคาที่ (เป็นเรื่องจริงเคยออกข่าว) และด้วยที่พ่อทำใจไม่ได้ เลยปักธูปเรียกให้พี่มากินข้าวเช้า-เย็นเลย พี่ที่เสียไปเป็นผู้หญิง และเป็นลูกติดพ่อ เราเป็นลูกติดแม่เลยไม่เคยเจอกันมาก่อน ซึ่งตอนที่พี่เขาเสียใหม่ๆ พ่อเราประสาทกินเลย เป็นบ้าไปช่วงหนึ่ง ทุกวันพ่อจะเรียกให้พี่มากินข้าว โดยการเอาธูปปักข้าวไว้ และเรียกมากิน ทั้งเช้า-เย็น ไม่ว่าจะไปกินข้าวข้างนอกก็ทำ พ่อทำใจไม่ได้ถึงขนาดเก็บทุกอย่างที่เป็นของพี่ ทุกอย่างรวมถึงเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดในวันที่พี่เขาโดนชน ก็เก็บไว้ในห้องนอนของพี่เขา   และด้วยที่เราไม่สนิท ไม่เคยเจอ (ตอนนั้นอยู่คนละบ้านกับพ่อ) พ่อมานอนที่บ้านแม่เรา แต่มีช่วงหนึ่งแม่ต้องไปนอนบ้านพ่อ ช่วยงานศพ เราเลยอยู่คนเดียว แต่เราก็ไม่ได้กลัว หรือไม่ได้คิดอะไร ช่วงนั้นชอบเล่นเกมเดอะซิมส์มาก ช่วงปิดเทอมเราก็เล่นยันตี 2-3 ทุกวัน แต่แปลกอย่าง คือชอบรู้สึกว่ามีคนอยู่ในห้องด้วย แต่ก็คิดว่าเป็นกุมารในห้องเราหรือเปล่า? ก็เล่นเกมไป แม่ก็ไม่ได้กลับบ้านเลยช่วงนั้น จนมาวันพระ คืนนั้นจำได้ดีว่าเลิกเล่นเกมตอนตี 2 ครึ่ง และจ

ดูอุบัติเหตุ

รูปภาพ
พอดีสัปดาห์ก่อนผมได้ไปเที่ยวที่สัตหีบจังหวัดชลบุรี เลยนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเจอมา สมัยก่อนผมเคยถูกส่งมาเรียนที่ชลบุรี และพักอยู่ที่บ้านอา อาผมเป็นหมอประจำตำบลบางเสร่ (บางเสร่เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ) สมัยนั้นเรียกได้ว่าคนทั้งตำบลต้องมารักษาที่คลีนิคของอา โดยก็ใช้บ้านของอานี่ล่ะเปิดเป็นคลินิค และงานที่อาต้องทำบ่อยๆ ก็คือชันสูตรศพครับ เด็กแว้นเยอะมาก ตายทุกวัน หน้าที่ของอาคือเมื่อเกิดอุบัติเหตุมีคนตาย ก็ต้องไปชันสูตรศพว่าตายอย่างไร? รถชนตายคาที่ หรือกระเด็นออกไปกระแทกตาย? อะไรแบบนี้ เสร็จก็เซ็นชื่อพร้อมให้ตำรวจรับศพไป มีวันหนึ่ง หลังกินข้าวเสร็จ ได้ยินเสียงรถชนดังลั่น  ‘โครม!!’  อาก็รู้ตัวละ เลยเตรียมตัว ผมก็รับสายโทรศัพท์บ้าน ตามคาดครับ ตำรวจเรียกตัวอาไปดูศพ วันนั้นผมเกิดอยากไปด้วยเพราะไม่เคยเห็น.. พอไปถึงที่เกิดเหตุ ที่เห็นคือวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าตายคาที่ เลือดอาบ ร่างบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปเลย ไทยมุงก็มากันไม่น้อย ขณะที่รออาชันสูตรศพ ผมก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาที่แขนขวา เลยหันไปมองคนที่ยืนทางขวามือผม เท่านั้นล่ะ ถึงกับสตั๊นไปเลย!! ผมมองไปที่ศพข้างหน้า แล้วกลับมามอ

คนไข้ชุดแดง

รูปภาพ
เป็นเรื่องของคุณแหม่ม ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คุณแหม่มเล่าว่า.. เราชอบขึ้นเวรกลางคืนเพราะมันไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนตอนกลางวัน เวรกลางคืนจะมีพยาบาล กับผู้ช่วยพยาบาล โดยจะมีช่วงพักเบรคสลับกันช่วงเวลา ตี 1 ถึงตี 3 กับ ตี 3 ถึงตี 5 ของทุกวัน (ถ้าไม่มีเคสหนักๆ) คืนหนึ่งเราก็เข้าเวรตามปกติ วันนี้ได้พักเบรคแรก พอตี 3 ก็ตื่นมานั่งที่เคาเตอร์พยาบาล แต่เรายังรู้สึกง่วงอยู่จึงฟุบลงกับเคาเตอร์ สักพักก็หลับไป.. ในฝันคือได้ยินเหมือนมีคนไข้กดออดเรียกขอความช่วยเหลือ ที่เคาเตอร์พยาบาลจะมีแผงไฟที่บอกว่าห้องไหนกดเรียก พอเดินออกไปที่ห้องดังกล่าว ก็เห็นคนไข้ผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ที่หน้าห้อง เราเลยแปลกใจ ถามออกไปว่า  ‘มีอะไรให้ช่วยไหมคะ.. ทำไมมายืนตรงนี้?’  จากนั้นคนไข้ก็ค่อยๆ หันมา แล้วก็กระโดดเข้ามาใส่เรา! จนเราตกใจตื่นขึ้น พอตื่นขึ้นมา ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดสีแดงยืนอยู่นอกเคาเตอร์พยาบาล เราจึงเปิดกระจกถามว่า  ‘มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?’  ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า  ‘ช่วยทำบุญให้หน่อยค่ะ..’  พร้อมกับบอกชื่อ-นามสกุลของเธอมา เราไม่ค่อยแน่ใจ จึงถามกลับไปอีกว่า  ‘..ให้ทำอะไรนะคะ?’  ผู้ห

คนเห็นผี ตอนที่ 1

รูปภาพ
เรื่องนี้ส่งมาจากคุณพี (นามสมมติ) ครับ คุณพีเล่าว่า.. เราเป็นคนเห็นผีมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง อย่างมีครั้งหนึ่งที่เราจำความได้แล้ว กลางวันแสกๆ เรานอนกับพ่อ คือพ่อหลับแล้ว แต่เรายังไม่หลับ แล้วพ่อก็ไม่ได้ปิดประตูห้อง คือแง้มๆ เอาไว้ เรามองผ่านประตูออกไปเห็นยายแก่ๆ นั่งบนทีวี คือแบบนั่งอยู่บนทีวีเลยนะ ทีวีตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วยายก็นั่งบนทีวีน่ะค่ะ นั่งหมุนไปหมุนมา พอแกเห็นเรามอง แกก็หันมายิ้มให้ ลักษณะคือใส่ผ้าถุงกับเสื้อแม่ไก่สีส้ม ไม่ได้น่ากลัวอะไร ยิ้มแบบคนแก่ๆ ไม่มีฟัน แบบเอ็นดูน่ะค่ะ เราเลยชี้ไปและถามพ่อว่า  ‘พ่อ..ยายคนนั้นเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง?’  พ่อก็งัวเงียบอกเราว่าไม่มีใครสักหน่อย แล้วพ่อก็ลุกไปปิดประตูห้อง.. อีกอย่าง เราเป็นคนมีเซ้นส์แบบเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าค่ะ เคยช่วยชีวิตเพื่อน และชีวิตตัวเองมาแล้ว อย่างเช่น เราเห็นภาพเพื่อนคนหนึ่งจะขับรถไป แล้วมีรถมาชนตาย ตรงสถานที่ตรงไหนๆ เราก็โทรบอกเพื่อน แต่ตอนนั้นมันไม่เชื่อ เราบอกให้มันเปลี่ยนให้แฟนมันขับแทน แล้วให้ใช้เส้นทางอื่น ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงหลังวางสาย มันโทรมาว่า จริงด้วย! มีคนประสบอุบัติเหตุ รถคันนั้นขับแซงไปก

คนเห็นผี ตอนที่ 2 (จบ)

รูปภาพ
มาๆ เรื่องของคุณพี (นามสมมติ) ต่อจากคราวที่แล้ว.. เรื่องสุดท้ายนี้เกี่ยวกับบ้านเหมือนกันค่ะ อย่างที่บอกว่าตั้งแต่พ่อกับแม่เราหย่ากัน แม่เราก็ย้ายมาอยู่ภาคใต้ ตอนแรกอยู่บ้านหลังนึงที่อยู่ในเมือง แต่พอแม่ไปรู้จักกับพ่อเลี้ยง (แฟนใหม่แม่) พ่อเลี้ยงเป็นชาวต่างชาติ เขาชอบและอยากจะมีบ้านที่อยู่นอกเมือง เพราะบรรยากาศดี ผู้คนไม่พลุกพล่าน ก็เลยไปดูบ้านไว้ที่นึง แต่มันเป็นบ้านร้างที่โทรมมาก ไม่มีใครอยู่มาเป็น 10 ปีแล้ว ตอนแม่พาเราไปดูบ้านครั้งแรก เราเห็นบ้านแล้วรู้สึกหดหู่มาก ในบ้านมันดูมืดหม่นกว่าบ้านอื่นๆ แถวนั้น เราบอกแม่แม่ก็ไม่ฟัง แม่บอกว่าก็ธรรมดาแบบนี้แหละ เพราะบ้านไม่มีคนอยู่มานาน เดี๋ยวพอเราทำใหม่มันก็ดีขึ้นเอง สุดท้ายแม่กับพ่อเลี้ยงก็ตัดสินใจซื้อบ้านนั้น ก่อนที่จะย้ายไปอยู่บ้านหลังนั้น คืนหนึ่งเราฝันว่า มีผู้หญิงคนนึงมาบอกเราว่า อย่ามายุ่งกับเขา เราก็บอกกลับไปว่า เราไม่เคยไปยุ่งกับเขา เราไม่รู้จักเขา เขาบอกว่า ก็บ้านที่พวกมึงกำลังจะไปอยู่มันคือบ้านกู อย่ามายุ่ง ออกไป! แล้วก็ร้องกรี๊ดใส่เรา พอตอนเช้าเราก็ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าเราคิดมากไปเองจนเก็บไปฝัน.. หลังจากนั้น แม่ก็ดำเนินกา

ฝึกภาคสนาม

รูปภาพ
เรื่องนี้ส่งมาจากคุณคชาครับ คุณคชาเล่าว่า.. ผมเป็นนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ครับ หรือที่เรียกกันว่า รด. เมื่อปีที่แล้วผมได้ไปฝึกภาคสนามประจำปี ที่ศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์ฝึกที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร การฝึกภาคสนามนี้ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ครับ คืนแรกผ่านไปอย่างสนุกสนาน โดนครูฝึกแดก (ทำโทษ) ต้อนรับกันระนาว และในการฝึกจะมีการเข้าประจำสถานีต่างๆ ตอนกลางวันก็จะเป็นสถานีที่สอนเรื่องการบุกโจมตี ใช้อาวุธ เข็มทิศ กระโดดหอ ส่วนตอนกลางคืนจะมีอยู่สถานีหนึ่งที่เรียกว่า  ‘เล็ดลอดหลบหนี’  สถานีนี้จะตั้งอยู่บนเขา ทางขึ้นไปยังสถานีสองข้างทางจะเป็นป่ารกทึบ ไม่ชันมาก แต่บรรยากาศน่ากลัวมากในตอนกลางคืน จากค่ายขึ้นไปถึงสถานีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ ตอนไปครูฝึกจะเดินนำหน้า พวกผมก็เดินตามๆ กันไปเป็นหมวด ระหว่างทางครูฝึกจะเตือนเสมอว่า ห้ามปากพล่อย หรืออย่าลองของท้าทาย ตอนกลางคืนเจออะไรก็ให้เงียบไว้ แล้วเดินตามเพื่อน อย่าให้หลงกัน พวกผมฟังอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร.. พอถึงสถานี จะเป็นลานกว้างๆ ให้ นศท. มารวมพลเพื่อรับการฝึก สถานีนี้เค้าจะสมมติว่

‘ลางบอกเหตุ’

รูปภาพ
คุณเชื่อเรื่อง  ‘ลางบอกเหตุ’  กันหรือเปล่า? เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวลางบอกเหตุก่อนเสียชีวิตมากันไม่มากก็น้อย บางครั้งมันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ แต่บางครั้งมันก็ดูเหลือเชื่อจนน่าขนลุก.. คืนนี้แอดเลยขอรวบรวมประสบการณ์เกี่ยวกับลางบอกเหตุในหลายๆ รูปแบบมาให้อ่านกัน  *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน* เราเชื่อเรื่องลางบอกเหตุค่ะ จากประสบการณ์ตรง.. ตอนคืนก่อนพ่อเราเสียชีวิต พ่อป่วยหนักมาก นอนไม่หลับ ไปปัสสาวะก็ไม่ได้ แต่พ่อบอกว่า  ‘ไม่เป็นไร ใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้ว..’  ซึ่งพวกเราคนที่บ้านก็งงว่าพ่อพูดอะไร? แล้วพอตอนเช้าจะพาไปหาหมอ ปรากฏว่าพ่อเสียค่ะ ตอนเวลา 6 โมงเช้าจริงๆ.. – สมาชิกพันทิป 3899723 – ส่วนตัวเชื่อนะครับ เวลาผมฝันว่าฟันหลุด ฟันร่วง ฟันหัก ทีไร มักจะมีญาติเสียชีวิตทุกครั้ง เป็นแบบนี้มา 3 ครั้งแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันมีอะไรมาเกี่ยวข้องกัน.. – ของฟรีแพงเสมอ – เท่าที่เคยเจอมามี 2 แบบครับ แบบที่ 1 :  ถ้าไม่ได้ป่วย หรือประสบอุบัติเหตุจนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ใกล้ตาย หรือชะตาขาด หน้าตาจะหมองคล้ำ จนดูออกเห็นได้ชัดเลย หรือบางทีก็มีแบบดูซึมๆ ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา